- Details
- Category: ยาเสพติด
- Published: Saturday, 29 January 2022 15:29
- Hits: 3405
คณะอนุกรรมการฯ อนุมัติเงินสินบน และเงินรางวัล 50 ล้านบาท ตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการกองทุนป้องกัน ปราบปรามและแก้ไขปัญหา ยาเสพติด ครั้งที่ 1/2565 ผ่านระบบการประชุมทางไกลสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Video Conference)โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย พล.ต.ท.พุทธชาติ เอกฉันท์ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายเดชา วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการส่วนสืบสวนปราบปราม 3 ผู้แทนกรมศุลกากร นางสาวสุวิดา สินธุประภา นักวิชาการคลังชำนาญการพิเศษ ผู้แทน กรมบัญชีกลางเพื่อร่วมกันพิจารณาการจ่ายเงินสินบนและเงินรางวัล ตามประมวลกฎหมาย
นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า “ที่ประชุมได้พิจารณาอนุมัติการจ่ายเงินสินบนและเงินรางวัลให้แก่ผู้มีสิทธิ์รับเงินรางวัล รวม 300 คดี เป็นเงิน 52,037,740 บาท (ห้าสิบสองล้านสามหมื่นเจ็ดพันเจ็ดร้อยสี่บาทถ้วน) ตามแผนด้านการป้องกัน ปรามปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ที่ขออนุมัติจ่ายเงินสินบนและเงินรางวัล 90 ล้านบาท
เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวต่ออีกว่า “เป้าหมายปี 2565 ภายหลังจากบังคับใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด เป็นการแยกคดีทรัพย์และคดีอาญาออกจากกัน ซึ่งปีนี้ สำนักงาน ป.ป.ส ตั้งเป้าหมายโดยกำหนดตัวชี้วัดตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ที่จะยึดทรัพย์ให้ได้ 10,000 ล้านบาท และ 5% หรือ 500 ล้านบาท จะเป็นของผู้ที่ชี้เบาะแส สำหรับข้าราชการและเจ้าหน้าที่จะได้ 25% หรือ 2,500 ล้านบาท
ดังนั้น เงินสินบนและเงินรางวัล ตามประมวลกฎหมายยาเสพติดใหม่ เป็นการสร้างเสริมขวัญกําลังใจ และแรงจูงใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ตลอดจนประชาชนที่ช่วยเหลือทางราชการในการปราบปรามยาเสพติด ซึ่งนอกจากจะเป็นผู้ทําคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติแล้ว ยังจะได้สิทธิประโยชน์ต่างๆ ตอบแทนอีกด้วย จึงขอให้ทุกภาคส่วนร่วมกันทำงานอย่างจริงจัง และร่วมแจ้งเบาะแสยาเสพติด เพื่อให้สามารถดำเนินการปราบปรามยาเสพติดได้บรรลุผลสำเร็จและยังได้รับเงินสินบนและเงินรางวัลอีกด้วย
ทั้งนี้ หากพบเจอผู้ค้ายาเสพติดหรือบุคคลที่มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ ขอให้แจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน 1386 ตลอด 24 ชั่วโมง สำนักงาน ป.ป.ส พร้อมดำเนินการยึดทรัพย์ทั้งเครือข่ายต่อไป