- Details
- Category: สภาอุตสาหกรรม
- Published: Monday, 09 March 2015 22:12
- Hits: 3048
ชี้พิษส่งออก-แรงซื้อไม่ฟื้น ทำ SME ถังแตก จี้รัฐเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ
แนวหน้า : นายเกรียงไกร เธียรนุกูล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ธุรกิจขนาดกลางและย่อม(SME) เริ่มประสบภาวะเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือ NPL ในอัตราที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลังจากภาวะการส่งออกยังคงชะลอตัวลง ควบคู่กับแรงซื้อในประเทศที่ยังคงไม่ฟื้นตัวส่งผลต่อการจำหน่ายสินค้าภาพรวม ที่ต้องลดลงและยังเผชิญการแข่งขันที่สูง ดังนั้นจึงเห็นรัฐบาลจะต้องเร่งเบิกจ่ายงบประมาณและงบลงทุนให้เป็นไปตามเป้า หมายเร่งด่วนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ
“การส่งออกที่ลดลง ม.ค.2558 แรงซื้อในประเทศที่ยังไม่ฟื้นตัว สิ่งที่เอกชนรอดูคือมาตรการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐที่จะเป็นตัว กระตุ้นเศรษฐกิจแต่พบว่า ม.ค.58 รัฐเบิกจ่ายงบลงทุนเพียง 5 หมื่นกว่าล้านบาทคิดเพียง 13% จากที่ตั้งเป้าไว้ ทำให้การลงทุนทั้งรัฐและเอกชนบางส่วนมีการชะลอออกไปโดยเฉพาะการลงทุนที่ เกี่ยวข้องกับงบประมาณรัฐก็ต้องดูสถานการณ์การเบิกจ่ายงบของรัฐก่อน“
นายเกรียงไกร กล่าวว่า การส่งออกสิ่งที่เอกชนกำลังติดตามใกล้ชิดก็คือกรณีที่สหรัฐอเมริกาจะมีการ ประเมินอันดันความน่าเชื่อถือปัญหาการค้ามนุษย์อีกครั้งในช่วงปลายเดือน มี.ค.นี้ ซึ่งก่อนหน้านั้นสหรัฐฯประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือให้ไทยอยู่ในระดับเทีย ร์ 3 หรือระดับล้มเหลว ซึ่งหากไทยไม่สามารถพ้นบัญชีดังกล่าวออกไปได้ก็จะมีผลกระทบต่อตลาดส่งออกไป สหรัฐอเมริกาที่ขณะนี้เป็นเพียงตลาดเดียวที่จะฟื้นตัวและมีศักยภาพที่จะทำ ให้ไทยส่งออกได้เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ปัจจุบันการส่งออกของไทยในตลาดหลักๆ มีทิศทางชะลอตัวโดยเฉพาะในสหภาพยุโรป(อียู)ที่การส่งออกต้องเผชิญแรงกดดัน มากจาก 2 กรณี คือ 1.การที่ไทยถูกตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร(GSP)ลงในสินค้าบางรายการที่เคย ได้รับ ทำให้ขีดความสามารถเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านลดลง 2.ค่าเงินบาทที่ไทยแข็งค่าขึ้น
นายวัลลภ วิตนากร รองประธานส.อ.ท.กล่าวว่า ธุรกิจ SME กำลังประสบปัญหาสภาพคล่องจากภาวะเศรษฐกิจทั้งภายใน และภายนอกชะลอตัวซึ่งส่ง ผลให้เริ่มเป็น NPL ในอัตราที่เพิ่มขึ้นซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ไม่ดีนัก ดังนั้นเห็นว่ารัฐบาลจะต้องเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจและหามาตรการช่วยเหลือสภาพคล่องของ SMEเร่งด่วนด้วย