- Details
- Category: สภาอุตสาหกรรม
- Published: Wednesday, 25 February 2015 21:13
- Hits: 2855
มติชนออนไลน์วันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558
สอท.ชี้่เห็นแน่ครึ่งปีหลัง/กักตุนแล้ว บางจากลั่นพร้อมร่วมสัมปทานปิโตรฯ
สภาอุตฯส่งสัญญาณแนวโน้มราคาน้ำมันดิบโลกขาขึ้นแล้ว โอกาสทะยานถึง 70 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ช่วงครึ่งปีหลัง ผลจากผู้ผลิตชะลอลงทุนเพิ่มผลิต และให้สังเกตการกักตุนน้ำมันเพื่อเก็งกำไรในอนาคต ด้านบางจากเล็งเข้าร่วมขอรับสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21
นายสุกฤตย์ สุรบถโสภณ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมโรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า แนวโน้มน้ำมันโลกปี 2558 เฉลี่ยทั้งปีจะอยู่ช่วง 50-70 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลงอย่างมากจากปี 2557 เฉลี่ยที่ 97 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล โดยคำนวณจากอุปสงค์น้ำมันดิบโลกขยายตัวระดับ 9 แสนบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นความต้องการหลักของเอเชีย ซึ่งราคาน้ำมันที่ลดลงจากปีก่อนเพราะอุปทานเพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับอุปสงค์ เนื่องจากผู้ผลิตนอกประเทศผู้ผลิตน้ำมัน (โอเปค) โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกามีการผลิตน้ำมันดิบจากชั้นหินดินดาน รวมทั้งมีโรงกลั่นใหม่เพิ่มขึ้น ทั้งจากตะวันออกกลางและภูมิภาคเอเชียประมาณ 1.1 ล้านบาร์เรล และปิดโรงกลั่นเก่าหายไป 3 แสนบาร์เรลต่อวัน รวมถึงประเทศกลุ่มโอเปคอย่างซาอุดีอาระเบีย ยังคงกำลังการผลิตเดิมและปรับราคาน้ำมันดิบลงด้วย
"ช่วงครึ่งปีแรกราคาเคลื่อนไหวระดับ 50-60 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล คาดว่าครึ่งปีหลังจะขยับเป็น 60-70 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากการชะลอลงทุนผลิตน้ำมันดิบของเอกชนหลายราย เพราะต้นทุนสูง ซึ่งนักวิเคราะห์เห็นตรงกันว่าราคาน้ำมันจะไม่ลดลงมากกว่านี้แล้ว เพราะเริ่มเห็นสัญญาณการกักตุนน้ำมันเพื่อเก็งกำไรในอนาคตแล้ว และทำให้เศรษฐกิจโลกโตระดับดีขึ้น" นายสุกฤตย์กล่าว
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปีนี้บริษัทคาดจะมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ยภาษีและค่าเสื่อมไม่ต่ำกว่า 10,400 ล้านบาท เพิ่มเป็น 25,000 ล้านบาท ในปี 2563 ซึ่งผลจากตั้งงบลงทุน 6 ปี ไม่ต่ำ 90,000 ล้านบาท เพื่อขยายการลงทุนไปธุรกิจต้นน้ำเพื่อจัดหาพลังงานให้เพียงพอต่อความต้องการของคนทั้งประเทศ และลงทุนในต่างประเทศด้วย โดยปีนี้จะพัฒนาศักยภาพโรงกลั่นและเพิ่มกำลังการกลั่นเป็น 105,000 บาร์เรลต่อวัน มีค่าการกลั่นเฉลี่ย 6-7 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และตั้งเป้าจำหน่ายน้ำมัน 450 ล้านลิตรต่อเดือน พร้อมกับสถานีบริการน้ำมันเพิ่มอีก 70 แห่งในปีนี้ และอีก 400 แห่งใน 6 ปี รวมเป็น 1,500 แห่ง
"เตรียมขยายธุรกิจผลิตเอทานอลและไบโอดีเซล ให้มีกำลังผลิต 810,000 ลิตรต่อวัน ซึ่งบางจากมีความพร้อมจะเข้าร่วมขอรับสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 โดยมองไว้ 1-2 แปลงในทะเล คงต้องรอดูท่าทีของรัฐบาลก่อน ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใด ส่วนแนวโน้มราคาน้ำมันโลกคาดว่ายังทรงตัว เฉลี่ยไม่เกิน 50-60 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล" นายชัยวัฒน์กล่าว และว่า เพื่อกระจายความเสี่ยงของธุรกิจลดปัญหาความผันผวนของราคาน้ำมัน โดยการลงทุนในต่างประเทศ อาทิ ด้านพลังงานแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่น ตั้งโรงงานไฟฟ้าชีวมวล โรงงานไฟฟ้าขยะในไทยและเอเชีย ศึกษาใช้พลังใต้พิภพ และเพิ่มกำไรที่ไม่ใช่ธุรกิจน้ำมันอีก 40%