- Details
- Category: สภาอุตสาหกรรม
- Published: Wednesday, 25 February 2015 13:23
- Hits: 3127
ส.อ.ท. เชื่อ โรงกลั่นในประเทศดีขึ้น หลังอุปสงค์เริ่มฟื้น-แนวโน้มราคาน้ำมันดีขึ้น คาดทั้งปีราคาอยู่ระหว่าง 50-70 เหรียญ/บาร์เรล
นายสุกฤตย์ สุรบถโสภณ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมโรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันในปี 58 คาดว่าจะทำให้อุตสาหกรรมการกลั่นน้ำมันในประเทศปีนี้น่าจะปรับตัวดีขึ้น จากการคาดการณ์เศรษฐกิจที่เติบโตสูงขึ้น อุปสงค์น้ำมันสำเร็จรูปจะเพิ่มมากขึ้นจากราคาที่ปรับตัวลดลง อีกทั้งราคาน้ำมันดิบที่คาดว่าจะสูงขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังจะทำให้มีกำไรจากสต็อกน้ำมัน
นอกจากนี้ การที่ราคาน้ำมันดิบลดลงทำให้ใช้เงินทุนหมุนเวียน (Working Capital) น้อยลงช่วยลดค่าใช้จ่ายทางการเงิน ประกอบกับค่าการกลั่นที่คาดว่าจะดีขึ้น จากการที่ราคาน้ำมันสำเร็จรูปในตลาดภูมิภาคปรับตัวลงช้ากว่าการปรับลดลงของราคาน้ำมันดิบ ตลอดจนการฟื้นตัวดีขึ้นของเศรฐกิจในภูมิภาค
"แนวโน้มและสถานการณ์ของน้ำมันโลกในปี 58 ราคาน้ำมันดิบดูไบน่าจะอยู่ในช่วง 50-70 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งปรับลดลงอย่างมากจากปี 57 ที่ราคาดูไบเฉลี่ย 97 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จากข้อมูลล่าสุดคาดว่าอุปสงค์น้ำมันดิบจะขยายตัวที่ระดับ 9 แสนบาร์เรล/วัน โดยมีความต้องการหลักจากเอเชีย" นายสุกฤตย์ กล่าว
สำหรับ อุปทานคาดว่าจะเพิ่มขึ้นในระดับใกล้เคียงกับอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่มาจากผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปกโดยเฉพาะ สหรัฐฯ ที่มีการผลิตน้ำมันดิบจากชั้นหินดินดาน (Shale Oil) ในขณะที่มีโรงกลั่นใหม่เพิ่มขึ้นทั้งจากตะวันออกกลางและภูมิภาคเอเชียราว 1.1 ล้านบาร์เรล/วัน และคาดว่าจะมีโรงกลั่นเก่าปิดตัวลงกว่า 3 แสนบาร์เรล/วัน ทำให้กำลังการกลั่นสุทธิที่เพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับความต้องการที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้คาดการณ์ว่าราคาน้ำมันดิบดูไบน่าจะทรงตัว อยู่ที่ระดับ 50-60 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลในช่วงครึ่งปีแรก ขณะทีค่าการกลั่นก็น่าจะทรงตัวอยู่ในระดับที่ดี
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย