- Details
- Category: สภาอุตสาหกรรม
- Published: Wednesday, 05 November 2014 23:04
- Hits: 4624
ส.อ.ท. มั่นใจภาคอุตสาหกรรมไทย พร้อมก้าวสู่การเป็นผู้นำในอาเซียน
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ในปี 2558 ที่จะมีการเปิดเสรีประชาคมอาเซียน (AEC) ส.อ.ท.มั่นใจว่าภาคอุตสาหกรรมของไทยมีศักยภาพในหลายๆด้านที่สามารถจะเป็นผู้นำในอาเซียนได้ เนื่องจากมีความได้เปรียบทางด้านภูมิศาสตร์ในการเป็นศูนย์กลางภูมิภาค ซึ่งถือเป็นจุดยุทธศาสตร์เชื่อมโยงประเทศต่างๆในภูมิภาคผ่านเส้นทาง East-West Economic Corridor และ North-South Economic Corridor ภายใต้แผนพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GMS)
นอกจากนี้ ประเทศไทยยังมีศักยภาพที่จะเป็นศูนย์กลางทางการบินและคมนาคมทางบกที่จะเชื่อมประเทศคาบสมุทรอินโดจีนและเชื่อมโยงเอเชียเหนือ โดยเฉพาะจีนกับเอเชียตะวันตกและอินเดียเข้าด้วยกัน ความได้เปรียบทางด้านการมีศักยภาพของอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่ง เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมอาหาร รวมทั้งอุตสาหกรรมสิ่งทอ ที่ไทยมีจุดเด่นในเรื่องขีดความสามารถในการผลิตครบวงจรเป็นฐานการผลิตใหญ่ในอาเซียน รวมถึงภาคอุตสาหกรรมไทยยังมีความชำนาญในการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคหลากหลายในประเภทที่มีความจำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวัน มีศักยภาพของแรงงานฝีมือ มีวัตถุดิบทางการเกษตรที่มีศักยภาพทั้งด้านปริมาณและคุณภาพ อีกทั้งอุตสาหกรรมไทยยังได้ขยายฐานการผลิตออกไปยังต่างประเทศจำนวนมาก เช่น วัสดุก่อสร้าง น้ำตาล ผลิตภัณฑ์เมลามีน อาหารทะเล มีระบบธนาคารที่เข้มแข็ง และมีการค้าชายแดนที่นับได้ว่าเป็นอีกแรงเสริมศักยภาพด้านการแข่งขันของไทยอีกประการหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยได้มีแผนการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่เชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้านที่เริ่มต้นในปี 2558 ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมเชื่อมโยงประตูการค้าระหว่างประเทศ เช่น ท่าเทียบเรือชายฝั่งแหลมฉบัง ศูนย์ขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟ การพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต และโครงข่ายถนน สนับสนุน เป็นต้น รวมถึงการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมเชื่อมโยงประตูการค้าชายแดน เช่น ถนนสายโพนพิสัย-บึงกาฬ ตอน 1 ถนนตาก-แม่สอด ถนนกาฬสินธุ์-อ.สมเด็จ สายตราด-หาดเล็ก เป็นต้น ซึ่งโครงการเหล่านี้ล้วนเสริมศักยภาพของอุตสาหกรรมไทยให้แข็งแกร่งและสามารถแข่งขันได้ในเวทีโลก
นายสุพันธุ์ กล่าวต่อว่า แม้ไทยจะมีข้อได้เปรียบในเวทีอาเซียนอยู่หลายด้าน ซึ่งอุตสาหกรรมไทยยังมีความจำเป็นต้องพัฒนาศักยภาพของตนเองตลอดเวลา เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการแข่งขันในเวทีโลกที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น ควบคู่กับการแสวงหาผลประโยชน์ที่มากับโอกาสจากการเข้าร่วมเป็นประชาคมอาเซียน ซึ่งภาคอุตสาหกรรมไทยอาจมีแนวทางในการปรับตัว เช่น อุตสาหกรรมที่มีการใช้แรงงานเข้มข้นควรต้องขยายฐานการผลิตไปในประเทศเพื่อนบ้านที่มีความสามารถแข่งขันด้านต้นทุนแรงงานที่ต่ำกว่า และมีทรัพยากรการผลิตที่เอื้ออำนวย มีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยเข้ามาใช้ในกระบวนการผลิต ให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนา นำเทคโนโลยีด้านสารสนเทศมาช่วยอำนวยความสะดวกในการดำเนินธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ สนับสนุนให้มีการเชื่อมโยงด้านการผลิตของอุตสาหกรรมขนาดใหญ่กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีผ่านระบบห่วงโซ่อุปทาน พัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่อเพิ่มผลิตภาพของแรงงานไทย จากปัจจุบันไทยมีปัญหาการผลิตกำลังคนซึ่งไม่สอดคล้องกับความต้องการภาคอุตสาหกรรม ดังนั้นต้องมีการพัฒนาแรงงานและตลาดแรงงานให้สมดุล และปรับตัวให้อุตสาหกรรมต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเป็น Eco Industrial Town/Green Industry
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย