- Details
- Category: สภาอุตสาหกรรม
- Published: Wednesday, 22 October 2014 22:18
- Hits: 4457
ส.อ.ท.เผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตฯ เดือน ก.ย.ร่วงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 อยู่ที่ 86.1 เหตุศก.ชะลอ-กำลังซื้อหด
ส.อ.ท.เผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตฯ เดือน ก.ย.ร่วงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 อยู่ที่ 86.1 เหตุ ศก.ชะลอ-กำลังซื้อหด ล่าสุดปรับลดเป้าจีดีพีปีนี้เหลือโต 1.7-1.8% จากเดิมคาดโต 2% มองเงินให้ชาวนาช่วยได้ช่วงสั้น ระยะยาวต้องฟื้นฟูกระบวนการผลิต
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือน ก.ย.57 อยู่ที่ 86.1 ลดลงจาก 88.7 ในเดือน ส.ค. โดยเป็นการปรับลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ค่าดัชนีฯที่ปรับลดลงเกิดจากยอดคำสั่งซื้อโดยรวม ยอดขายโดยรวม ปริมาณการผลิต ต้นทุนประกอบการและผลประกอบการที่ปรับตัวลดลง
"ระดับความเชื่อมั่นที่ปรับลดลงจากความกังวลเกี่ยวกับความซบเซาของภาวะเศรษฐกิจ และการชะลอตัวของการบริโภคภายในประเทศ การแข่งขันที่รุนแรง รวมถึงปัญหาสภาพคล่อง ทำให้ผู้ประกอบการขาดแรงกระตุ้นในการขยายการลงทุน"นายสุพันธุ์ กล่าว
สำหรับ ดัชนีความเชื่อมั่นฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ 104.7 ปรับเพิ่มขึ้น 102.4 จากเดือน ส.ค. โดยค่าดัชนีฯ คาดการณ์ที่เพิ่มขึ้น จากองค์ประกอบ ยอดคำสั่งซื้อโดยรวม ยอดขายโดยรวม ปริมาณการผลิต และผลประกอบการ
นายสุพันธุ์ กล่าวต่อว่า ในปีนี้ ส.อ.ท. มองอัตราการขายตัวทางเศรษฐกิจ หรือ จีดีพี จะขยายตัวได้ 1.7-1.8% จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัวได้ 2% เป็นผลจากการส่งออกรถยนต์ที่ก่อนหน้าคาดว่าจะขนายตัวได้ถึง 9-10% แต่ปัจจุบันเริ่มลดลง เนื่องจากการส่งออกไปตะ
วันออกกลางลดลง จากสงครามกลางเมืองในตะวันออกลาง และการชะลอตัวในแอฟริกา จากสถานการณ์เชื้ออีโบล่า เป็นต้น
"ก่อนหน้านี้เราหวังว่าการส่งออกรถยนต์จะมาช่วยในเรื่องการเติบโตเศรษฐกิจให้โตได้ถึง 2% แต่ตอนนี้กลายเป็นว่าฉุดลงจากการส่งออกรถยนต์ที่ลดลงจากการก่อการร้ายในตะวันออกกลาง และในทวีปแอฟริกาที่กำลังเจอโรคระบาดอีโบล่า"นายสุพันธุ์ กล่าว
สำหรับ ข้อเสนอะแนะของผู้ประกอบการที่มีต่อภาครัฐในเดือนกันยายนนี้ คือ ให้ภาครัฐเร่งรัดการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและพัฒนาระบบคมนาคมขนส่ง เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ อีกทั้งแก้ไขปัญหาและอุปสรรคการค้าชายแดน เช่น การผ่อนคลายระเบียบต่างๆ ตลอดจนการพัฒนาระบบการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศให้มีการเขื่อมโยงกันรวมทั้งรักษาระดับราคาพลังงานและค่าไฟฟ้าให้เหมาะสม เนื่องจากเป็นต้นทุนการผลิตที่สำคัญของภาคอุตสาหกรรม และจัดตั้งศูนย์ประสานงานด้านข้อมูลการค้าการลงทุนเกี่ยวกับการเข้าไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี
นายสุพันธุ์ กล่าวว่า ส่วนการช่วยเหลือชาวนาในโครงการไร่ละ 1,000 บาทนั้น ยืนยันว่าช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการบริโภคชาวนาในระยะสั้นเท่านั้น แต่ในระยะยาวภาครัฐจะต้องเร่งฟื้นฟูปัญหาด้านราคา คุณภาพสินค้า ตลาดส่งออกใหม่ๆ รวมไปถึงการแปรรูปของสินค้าด้วย
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย