- Details
- Category: สภาอุตสาหกรรม
- Published: Wednesday, 17 September 2014 22:18
- Hits: 4297
ส.อ.ท.มอง อัตราจัดเก็บ VAT ที่ 7% ยังต่ำไป แต่หากจะปรับขึ้น ต้องทำในเวลาที่เหมาะสม
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า เห็นด้วยที่จะมีการปรับขึ้นอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ vat ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 7% แต่ทั้งนี้ หากจะมีการปรับอัตราภาษีเพิ่มขึ้นนั้น ควรดำเนินการในช่วงเวลาที่เหมาะสม เช่น ในช่วงที่เศรษฐกิจเริ่มขยายตัว ซึ่งมองว่าปีหน้าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือ จีดีพี จะขยายตัวได้ 4-5%
" การจะปรับขึ้นก็เพื่อรักษาสมดุลระหว่างงบประมาณกับรายจ่ายให้เหมาะสม คิดว่าในปีหน้าคงเห็น แต่คงต้องดูว่าหากจะปรับต้องทำในเวลาที่เหมาะ โดยต้องจับตาว่ารัฐบาลจะผลักดันให้เศรษฐกิจเติบโตได้ไหม แต่ทั้งนี้ หากปีหน้ามีวิกฤติอะไรเกิดขึ้นก็อาจต้องมาทบทวนกันอีก"นายสุพันธุ์ กล่าว
ประธาน ส.อ.ท. คาด จีดีพี ปีหน้าโต 4.5% เหตุการลงทุนเพิ่มสูงขึ้น ส่วนปีนี้ที่คาดโตเพียง 2%
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. ได้คาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศในปี 2558 โดยระบุว่าเศรษฐกิจจะเติบโตได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 4.5 เนื่องจากในปีหน้าการลงทุนในประเทศจะสูง ทั้งในเรื่องการทำโครงสร้างพื้นฐาน และราคาสินค้าเกษตรที่จะปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งน่าจะส่งผลให้การส่งออกในปีหน้าเติบโตร้อยละ 4-5 จากในปีนี้ที่คาดการณ์ว่าจะเติบโตเพียงร้อยละ 2 และน่าจะเป็นช่วงเวลาที่ดีในการที่จะปรับภาษีมูลค่าเพิ่มให้สูงขึ้น เพราะเป็นช่วงเวลาที่เศรษฐกิจจะเติบโตได้ดี
อย่างไรก็ตาม เรื่องของโครงสร้างภาษี ที่พยายามปรับเพื่อลดความเลื่อมล้ำ เชื่อว่าจะไม่กระทบกับภาคเอกชนและผู้มีรายได้น้อย และเห็นด้วยที่จะมีการปรับภาษที่ดิน เพราะถือว่าจะได้เป็นการใช้ที่ดินให้เกิดประโยชน์มากที่สุด
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
ส.อ.ท.หนุนขึ้น VAT ในช่วงเวลาเหมาะสม คาด GDP ปี 58 โตไม่ต่ำกว่า 4-5%
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศ(ส.อ.ท.) กล่าวว่า เห็นด้วยที่จะมีการปรับขึ้นอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 7%แต่หากจะปรับต้องทำในเวลาที่เหมาะสม เช่น ในช่วงที่เศรษฐกิจในภาพรวมดีขึ้น ซึ่งมองว่าปีหน้าการเมืองไทยนิ่ง การส่งจะทยอยดีขึ้น การลงทุนในประเทศสูงขึ้นมาก เงินลงทุนและงบประมาณภาครัฐจะสูงขึ้นพอสมควร การปรับตัวเพื่อรองรับการเข้าสู่ AEC จะมากขึ้น การค้าชายแดนกับประเพื่อนบ้านจะดีขึ้นมาก ซึ่งมองว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ปีหน้าจะขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่า 4-5%
"เรื่อง VAT ถือเป็นกลไก เพราะ 7% ถือว่าถูกกว่าเมื่อเทียบกับหลายๆประเทศ เช่น ยุโรป แต่เราใกล้เคียงสิงคโปร์ เชื่อว่างบประมาณที่เราใช้ในวันนี้กับรายได้ไม่สมดุลกัน ทำให้ต้องมีการปรับกลไกของภาษี แม้จะขึ้นภาษี VAT และการลดภาษีนิติบุคคลเหลือ 20% ก็เป็นกลไกที่จะทำให้ผู้ประกอบการแข็งแรงขึ้น" นายสุพันธุ์ กล่าว
นายสุพันธุ์ กล่าวว่า การจะปรับขึ้น VAT คิดว่าในปีหน้าคงเห็น ซึ่งต้องจับตาว่ารัฐบาลจะสามารถผลักดันให้เศรษฐกิจเติบโตได้ไหม แต่หากปีหน้ามีวิกฤติอะไรเกิดขึ้นก็อาจต้องมาทบทวนกัน
"ทุกคนคาดว่าปีหน้าจะดี จากนี้ไปเราควรจะโตไม่ต่ำกว่า 4.5% ถ้ายังโต 1% 2% 3% ถือว่าเรายังถอยหลัง เพราะทุกวันนี้ทุกประเทศในโลกมองมาที่อาเซียนเป็นหลัก เพราะค่าเฉลี่ยการเติบโตของกลุ่มอาเซียนค่อนข้างสูง ประมาณ 6%...10 ปีย้อนหลังจีดีพีไทยโตเป็นอันดับ 2 ในกลุ่มอาเซียน"
ประธาน ส.อ.ท. ยอมรับว่า ตัวเลขการส่งออกอาจเติบโตได้เพียง 2% จากเป้าหมายของกระทรวงพาณิชย์ที่ 3.5% เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่ทำท่าจะดีในระยะแรกก็มีเรื่องสงครามมาบั่นทอน ทำให้เศรษฐกิจโลกเริ่มชะลอตัวลง ราคาน้ำมันถูกลง
"ยอมรับว่าการส่งออกของไทยปีนี้คงไปไม่ถึงเป้า 3-3.5% ดีที่สุดอาจได้แค่ 2%" ประธานส.อ.ท. กล่าว
อินโฟเควสท์