- Details
- Category: หอการค้า
- Published: Friday, 08 July 2016 08:19
- Hits: 5180
ม.หอการค้า เผยดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิ.ย.59 อยู่ที่ 71.6 ต่ำสุดรอบ 25 เดือน พร้อมหั่นจีดีพีปีนี้เหลือ 2.7-3.2% เหตุส่งออก - Brexit กดดัน
ม.หอการค้า เผยดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิ.ย.59 อยู่ที่ 71.6 ลดลงจากเดือนพ.ค.ที่อยู่ที่ 72.6 ลดลงต่อเนื่องเดือนที่ 6 ต่ำสุดในรอบ 25 เดือน ส่วนดัชนีเชื่อมั่นศก.โดยรวมอยู่ที่ 60.6 ลดลงจาก 61.1 เช่นเดียวกับดัชนีเชื่อมั่นศก. 6 เดือนข้างหน้า ลดลงมาอยู่ที่ 73.2 จากเดิมคาด 74.6 เหตุกังวลศก.โลก - ส่งออกไทยชะลอ พร้อมหั่นจีดีพีไทยปีนี้เหลือโต 2.7-3.2% จาก 3-3.5% ส่วนส่งออกคาดมีโอกาสติดลบ 2% มอง Brexit สร้างความเสียหายต่อภาคส่งออก-ท่องเที่ยวรวม 50,000 ลบ. - กระทบจีดีพีไทย 0.1-0.2%
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนมิถุนายน 2559 ที่ผ่านมาอยู่ที่ 71.6 ลดลงจากเดือนก่อนที่อยู่ที่ 72.6 ปรับลดลงต่อเนื่องเดือนที่ 6 และอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 25 เดือนนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2557 เนื่องจากผู้บริโภคมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ ที่อังกฤษลงประชามติถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ที่อาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย นอกจากนี้ผู้บริโภคยังรู้สึกว่าภาวะเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันฟื้นตัวค่อนข้างล่าช้า โดยเฉพาะราคาพืชผลยังอยู่ในระดับต่ำ ส่งผลให้กำลังซื้อในประเทศยังฟื้นตัวไม่มากนัก
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคยังคงเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 100 สะท้อนว่าผู้บริโภคยังเห็นว่าสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมยังฟื้นตัวไม่มากนัก ทั้งนี้ ผู้บริโภคยังมีความกังวลกับสถานการณ์การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ยังมีความผันผวนสูงจากเหตุการณ์ Brexit การส่งออกที่หดตัว ราคาพืชผลทางการเกษตรทรงตัวต่ำ ยังคงเป็นตัวบั่นทอนความเชื่อมั่นโดยรวมของประเทศไทยในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ม.หอการค้าคาดว่าการบริโภคของภาคประชาชนยังฟื้นตัวขึ้นไม่มากนัก เนื่องจากประชาชนมีความวิตกกังวลเกี่ยวกกับสถานการณ์ความไม่แน่นอนของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวของการบริโภคน่าจะค่อยๆปรับตัวดีขึ้นในช่วงปลายไตรมาส 3 ของปีนี้ ถ้าสถานการณ์ความผันผวนของเศรษฐกิจโลกคลี่คลายลง และประสิทธิภาพของการใช้จ่ายและการลงทุนของภาครัฐเพื่อกระตุ้นเศรษฐฏิจให้ฟื้นตัวอย่างเป็นรูปธรรม
นายธนวรรธน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้านดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมปรับตัวลดลงต่อเนื่องมาอยู่ที่ 60.6 จาก 61.1 ปรับลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 และอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 25 เดือน นับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2557 ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเกี่ยวกับเศรษฐกิจในอีก 6 เดือนข้างหน้า มองว่าจะปรับลดลงมาอยู่ที่ 73.2 จาก 74.6 เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก การส่งออกของไทยและเศรษฐกิจไทยหลังจากเหตุการณ์ Brexit โดยผู้บริโภคมีความหวังว่ารัฐบาลจะเร่งลงทุนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง
อย่างไรก็ตาม ในด้านของดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเกี่ยวกับเศรษฐกิจในปัจจุบันปรับตัวดีขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน เนื่องจากราคาพืชผลทางการเกษตรเริ่มปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้กำลังซื้อในต่างจังหวัดเริ่มปรับดีขึ้น
“สิ่งที่เราเห็นในเดือนนี้ คือ ทุกดัชนีมีการปรับลดลงและทำสถิติต่ำสุดในรอบ 2-3 ปี ทั้งดัชนีความเหมาะสมในการซื้อรถยนต์คันใหม่ที่ต่ำสุดในรอบ 82 เดือน ในการซื้อบ้านหลังใหม่ต่ำสุดในรอบ 25 เดือน ด้านดัชนีความเหมาะสมในการใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวต่ำสุดในรอบ 8 เดือน ส่วนสัญญาณที่เริ่มกลับมาขยายตัวดีหลังจากสถานการณ์ภัยแล้งคลี่คลาย คือ ราคาพืชผลทางการเกษตรปรับตัวดีขึ้น เกษตรกรเริ่มรับรู้รายได้ที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่เดือนเม.ย.-พ.ค.ที่ผ่านมา”นายธนวรรธน์ กล่าว
นายธนวรรธน์ กล่าวว่า ม.หอการค้าปรับลดประมาณการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือ จีดีพี ปีนี้เหลือ 2.7-3.2% จากเดิมที่คาด 3.2-3.5% เนื่องจากมีความไม่แน่นอนสูงจากสถานการณ์ Brexit ว่าจะส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกของไทยหรือไม่ ซึ่งเบื้องต้นประเมินว่าจะกระทบต่อจีดีพีไทย 0.1-0.3% และมีมูลค่าความเสียหายรวม 50,000 ล้านบาท ทั้งในด้านของการส่งออกและการท่องเที่ยว รวมถึงเศรษฐกิจโลกที่จะมีความผันผวนมากขึ้น โดยการส่งออกของไทยปีนี้คาดว่าจะอยู่ในช่วง 0 ถึง -2% และมีโอกาสสูงที่จะติดลบที่ 2%
ส่วนของครึ่งปีแรกปี 2559 มองว่าจีดีพีของไทยจะขยายตัวได้ 3-3.2% จากการขับเคลื่อนการลงทุนในโครงการต่างๆของภาครัฐ โดยม.หอการค้าอยากให้ภาครัฐเร่งสร้างความเข้มแข็งในประเทศ เพื่อรองรับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
“แม้ว่า Brexit จะลงประชามติไปเรียบร้อยแล้ว แต่ความเสี่ยงยังสูง มันยังมีความไม่แน่นอนสูง ทำให้คนกังวลต่อความผันผวนเศรษฐกิจโลกและการส่งออกของไทย ซึ่งถือเป็นประเด็นที่ยังต้องจับตา แต่หากไม่มีอะไรที่กระทบไปมากกว่านี้แล้ว ก็เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยจะเริ่มทยอยการฟื้นตัวในช่วงไตรมาส 3-4 ของปีนี้”นายธนวรรธน์ กล่าว
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย