- Details
- Category: หอการค้า
- Published: Friday, 17 October 2014 12:40
- Hits: 4411
ไทย-เมียนมาร์จับมือพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ เพิ่มการค้าการลงทุนชายแดน
แนวหน้า : หอการค้าไทย-เมียนมาร์มีมติร่วมจัดตั้งบอร์ดร่วมทำแผนแม่บทการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษแม่สอด ปรับกฎระเบียบ เพิ่มความสะดวกในการเคลื่อนย้ายคนและสินค้า เพิ่มมูลค่าการค้าชายแดน เตรียมเสนอรัฐบาลทั้ง2ฝ่ายเห็นชอบ
นายสมเกียรติ อนุราช รองประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับหอการค้าและอุตสาหกรรมสหภาพเมียนมาร์เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2557ว่าหอการค้าไทย และหอการค้าเมียนมาร์มีมติร่วมกันให้จัดตั้งคณะกรรมการร่วมไทยเมียนมาร์เขตเศรษฐกิจพิเศษขึ้น เพื่อจัดทำแผนแม่บทที่จะใช้ในการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษแม่สอด ให้เป็นเขตเศรษฐกิจที่ครบวงจร โดยเฉพาะการมองถึงความเป็นไปได้เรื่องกฎระเบียบร่วมกันของทั้ง 2 ฝ่าย การเคลื่อนย้ายคน สินค้า เพื่อเปิดโอกาสให้เกิดการค้าการลงทุนของทั้งสองประเทศเพิ่มขึ้น ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลา 6-9 เดือน ในการจัดทำแผนแม่บทดังกล่าวสำเร็จ ก่อนจะนำเสนอ และใช้หารือกับรัฐบาลของทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อพิจารณา เห็นชอบต่อไป
"จากการที่ได้หารือกับสภาพัฒน์แล้วเห็นว่าเขตเศรษฐกิจพิเศษจะต้องมีหลายรูปแบบ คือ เป็นแหล่งการค้า เป็นเขตอุตสาหกรรม เป็นแหล่งท่องเที่ยว เป็นต้น ทั้งนี้เห็นว่าแม่สอดเหมาะสมที่จะพัฒนาให้เป็นทั้งแหล่งการค้า การท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมได้ จึงเตรียมส่วนนี้เข้าไปอยู่ในแผนแม่บทด้วย อีกทั้งแผนแม่บทดังกล่าวจะต้องเป็นการส่งเสริม และพัฒนาในเรื่องของการอำนวยความสะดวก ด้านการค้าการลงทุน การท่องเที่ยวรวมถึงการเคลื่อนย้ายแรงงานของทั้งสองฝ่ายให้ครอบคลุม เพื่อเพิ่มการค้าการลงทุนตามแนวชายแดนด้วย"
พร้อมกันนี้ในแผนแม่บทยังจะมีการเสนอให้รวม 3 อำเภอของจังหวัดตาก ได้แก่ อ.แม่สอด อ.แม่ระมาด และ อ.พบพระ อยู่ในพื้นที่ของเขตเศรษฐกิจพิเศษ และเพื่อให้จังหวัดตากเป็นจังหวัดนำร่องของเขตเศรษฐกิจพิเศษของไทยด้วย ทั้งนี้ในเบื้องต้นการตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษยังไม่มีความชัดเจนเท่าที่ควร ทั้งในส่วนของสถานที่ตั้ง ผลประโยชน์ ซึ่งยังอยู่ระหว่างหาข้อสรุปที่ชัดเจน ในขณะที่เมียนมาร์มีความชัดเจนเรื่องเขตเศรษฐกิจพิเศษเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามเชื่อว่ารัฐบาลไทยมีนโยบายให้การสร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษของไทยต้องสอดคล้องกับของประเทศเพื่อนบ้าน
ทั้งนี้ในการประชุมแนวทางความร่วมมือในการพัฒนาเขตเศรษฐกิจ ไทย-เมียนมาร์ยังได้หารือถึงความเหมาะและศักยภาพเชิงพื้นที่ของเขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งไทยมีการระบุที่ตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษใน 3 จังหวัด คือแม่สอด แม่ระมาด พบพระ จ.ตาก จ.กาญจนบุรี และ แม่สาย จ.เชียงราย ส่วนของเมียนมาร์ ได้แก่ เมียวดี ผาอัน และเมาะละแหม่ง,โอกาสทางธุรกิจในเขตเศรษฐกิจพิเศรษฐ, การเตรียมความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อการค้า การลงทุนและการขนส่ง, ความร่วมมือระหว่างกันในอนาคต เป็นต้น
"เบื้องต้นได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับการค้าชายแดนของทั้ง 2 ประเทศรวมถึงการสร้างสะพานแห่งที่ 2 ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาการสร้างที่จะเชื่อมต่อไปยังเมียนร์มา เพื่อเพิ่มความสะดวกในการขนส่งสินค้าระหว่าง 2 ประเทศ"
นอกจากนี้ระหว่างวันที่ 15-19 ตุลาคม 2557 ได้มีการจัดงานแสดงสินค้าส่งเสริมการค้าชายแดนและข้ามแดนไทย-เมียนมาร์ เพื่อเป็นการส่งเสริมการค้าร่วมกัน โดยสินค้าหลักที่จะส่งเสริมคือ อาหาร,วัสดุก่อสร้าง,เครื่องจักรกลการเกษตร,อุปโภคบริโภค และเครื่องทำความเย็น ซึ่งเป็นสินค้าที่เมียนมาร์มีความต้องการโดยภายในงานจะมีผู้ประกอบการจากไทยมากกว่า 100 ราย และผู้ประกอบการจากเมียนมาร์ 40 ราย นำสินค้ามาจัดแสดง พร้อมทั้งจะมีการจับคู่ทางธุรกิจ แลกเปลี่ยนข้อมูลการค้าการลงทุนกันภายในงานด้วย และคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานครั้งนี้กว่า 20,000 ราย
นายอูเมียนจยอง เลขาธิการหอการค้าและอุตสาหกรรมสหภาพเมียนมาร์ กล่าวว่า ในการจัดงานแสดงสินค้าส่งเสริมการค้าชายแดนและข้ามแดนไทย-เมียนมาร์ครั้งนี้ทางเมียนมาร์ได้นำผู้ประกอบการทั้งด้านการค้า การขนส่ง เข้าร่วมงาน กว่า 100 ราย ในขณะเดียวกันรู้สึกว่างานครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อทั้ง 2 ฝ่าย ในการทำการค้าชายแดนร่วมกัน และหวังว่ารัฐบาลทั้ง 2 ฝ่ายจะช่วยสนับสนุนการค้าชายแดนระหว่างกันให้สามารถดำเนินการไปได้ด้วยดี