- Details
- Category: EEC เมกะโปรเจกต์
- Published: Saturday, 03 June 2017 11:45
- Hits: 4130
JETRO เผย 24 บริษัทญี่ปุ่น ขยายการลงทุนใน EEC แล้ว แนะรัฐลงทุนพัฒนาสาธารณปโภค-ปรับปรุงก.ม.ไม่สร้างปัญหา
องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็น เรื่อง ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) เพื่อนำไปสู่การปรับปรุงสภาพแวดล้อมด้านการลงทุนภายในเขต EEC พบว่า มี 24 บริษัทได้ขยายธุรกิจไปยังเขต EEC เรียบร้อยแล้ว พร้อมกำลังพิจารณาจัดตั้งสำนักงานภายในเขต EEC เนื่องจากมองว่าเป็นการวางตำแหน่งที่สำคัญเชิงกลยุทธ์ในภูมิภาคีทีกว้างขึ้น
นอกจากนี้ มีจำนวน 10 บริษัท ที่มีแผนขยายการลงทุนเพิ่มเติมในอนาคต และคาดการณ์ว่าจะมีการลงทุนจำนวนหนึ่งในเขต EEC จากบริษัทญี่ปุ่นที่มาเปิดกิจการในไทยอย่างต่อเนื่อง ส่วนที่เหลือยังไม่มีแผนการลงทุน
สำหรับ มาตรการสิทธิประโยชน์ด้านการลงทุนในเขต EEC ที่รัฐบาลไทยนำมาใช้ พบว่า 22 บริษัทตอบว่ามีประสิทธิภาพ โดยส่วนใหญ่บอกว่าเป็นเรื่องการลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลสูงสุด 15 ปี และการลดภาษีเงินได้นิติบุคคล 50% เป็นเวลา 5 ปีหลังจากลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล
นอกจากนี้ ยังมีบริษัทอีกส่วนหนึ่งตอบว่า มีประสิทธิภาพ เนื่องจากการลงทุนสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานที่กำลังวางแผนจะดำเนินการในอนาคตในเขต EEC เช่น การเตรียมท่าเรือแหลมฉบังและสนามบินอู่ตะเภา, การก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-ระยอง ซึ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพด้านโลจิสติกส์ พร้อมเห็นว่าการผ่อนปรนขั้นตอนการขอใบอนุญาตและการเพิ่มความรวดเร็วในขั้นตอนของหน่วยงานรัฐ ตลอดจนการอนุญาตเรื่องการชำระเงินสกุลเงินต่างประเทศ ก็ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นกัน ซึ่งในภาพรวมมีความเห็นในเชิงตอบรับว่าส่งผลดีพอสมควร เมื่อเปรียบเทียบกับมาตรการสิทธิประโยชน์ด้านการลงทุนของประเทศอื่น
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีการประเมินเชิงตอบรับต่อ EEC แต่นักลงทุนญี่ปุ่นได้มีข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลไทย เพื่อให้รับประกันนโยบายในระยะยาวต่อนักลงทุน, มูลค่าที่คาดหวังให้ภาคเอกชนลงทุนมีอยู่สูง, รัฐบาลควรพัฒนาสาธารณูปโภคหลักด้วยเงินลงทุนของรัฐบาลไทย, การพัฒนาบุคลากรที่มีคุณภาพสูง, การจัดเตรียมสภาพแวดล้อมเพื่อนำเทคโนโลยีล้ำสมัยมาใช้, การปรับปรุงด้านโลจิสติกส์และจัดเตรียมสาธารณูปโภคอื่นๆ รวมทั้งการปรับปรุงกฎหมายและประเด็นปัญหาของหน่วยงานภาครัฐ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซึ่งเคยเกิดมาแล้วจากความเห็นที่ไม่สอดคล้องกันระหว่างกรมสรรพากรและ BOI เรื่องการจัดการยกยอดผลขาดทุนของภาษีเงินได้นิติบุคคล
JETRO ได้สำรวจความคิดเห็นจากบริษัทที่อยู่ในหอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพฯ (JCC) รวม 48 บริษัท ในช่วงเวลาระหว่าง 27 เม.ย.-3 พ.ค. 60 โดยมีจำนวนบริษัทที่ตอบแบบสอบถาม 28 บริษัท เป็นบริษัทที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการผลิต 18 บริษัท และบริษัทอื่นๆที่ไม่ใช่อุตสาหกรรมการผลิต 10 บริษัท