- Details
- Category: EEC เมกะโปรเจกต์
- Published: Wednesday, 13 January 2016 09:18
- Hits: 7169
ทั่วสารทิศประสานเสียงขุดคลอง'คอคอดกระ'บันทึกประวัติศาสตร์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
แนวคิดการขุดคลอง ณ บริเวณคอคอดกระ มีมาตั้งแต่รัฐบาลไทยสมัยรัชการที่ ๕ ได้ดำริที่จะขุดคอคอดกระแต่มีอุปสรรคเนื่องจากปัญหาการเมืองระหว่างประเทศ
ภาพที่เห็นนี้ คือ แผนที่ต้นแบบและแผนภูมิคอคอดกระ ฉบับของนายเดอลองก์ วิศวกรชาวฝรั่งเศส ที่ได้รับพระราชทานให้สำรวจคอคอดกระอย่างเป็นทางการในปี พ.ศ.2424 (ค.ศ.1881)
แผนที่ฉบับนี้ไม่เคยปรากฏให้เห็นในสยาม ซึ่งตกค้างอยู่ในฝรั่งเศสไม่ต่ำกว่า 130 ปี จนคุณไกรฤกษ์ นานา ได้ประมูลแผนที่แผ่นนี้ ที่กรุงปารีส เมื่อวันที่ 7ก.พ. พ.ศ.2555
มาปี 2501 มีบันทึกข้อเสนอเรื่อง สนับสนุนขุดคอคอดกระ ของนายปรีดี พนมยงค์ กุมภาพันธ์ พ.ศ.2501 ถึงนายกสมาคมหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย มีแนวคิดข้อเสนอไว้มากมาย
ล่าสุด มีรายงานว่า ภายหลัง ศาสตราจารย์พิเศษธานินทร์ กรัยวิเชียร องคมนตรี ทำหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ลงวันที่ 15 ตุลาคม 2558 ที่ผ่านมา เสนอความเห็นเกี่ยวกับนโยบายด้านการพาณิชย์นาวี และการพัฒนาระบบการขนส่งทางทะเล สนับสนุนโครงการขุดคอคอดกระ
โดยระบุว่า จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีการดำเนินการตามโครงการดังกล่าวแต่อย่างใด ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการหวั่นเกรงว่า อาจกระทบความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน และอาจเป็นการแบ่งแยกดินแดนกระทบกับปัญหาความมั่นคง ซึ่งเป็นการเสี่ยงที่จะเริ่มโครงการดังกล่าว
แต่ปัจจุบันสถานการณ์ต่างๆ ได้เปลี่ยนแปลงไป การเกิดความร่วมมือเป็นประชาคมอาเซียน จึงทำให้วิกฤติเปลี่ยนเป็นโอกาสทองของประเทศที่จะทำให้คอคอดกระกลายเป็นศูนย์กลางคมนาคมทั้งทางบก ทางเรือ และทางอากาศ ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ได้รับและเห็นเอกสารขององคมนตรีแล้ว อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยังไม่มีนโยบายอะไรออกมา
ทางด้านเครือข่ายรณรงค์ ขุดคลองกระไทย ได้รณรงค์ผลักดันรัฐบาลเดินหน้าโครงการขุดคลองกระไทย เกิดผลดีด้านความมั่นคง การค้าการลงทุน สร้างรายได้ให้ประชาชนเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 5 แสนบาทต่อคนต่อปี ชี้ต้องเดินหน้าในรัฐบาลนี้เท่านั้น เพราะการเมืองปกติไม่สามารถผลักดันได้
นายพิเชียร อำนาจวรประเสิรฐ ประธานเครือข่ายรณรงค์ ขุดคลองกระไทย และอดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ปี 2550 กล่าวในงานสัมมนา 'อนาคตเศรษฐกิจ พลังงานไทย ก้าวไกลด้วยโครงการขุดคลองกระไทย'ว่า การขุดคลองกระจะช่วยย่นระยะทางได้กว่า 1,500 กิโลเมตร ร่นระยะเวลาเดินทางระหว่างมหาสมุทรอินเดีย และทะเลจีนใต้ได้ 3 ถึง 4 วัน ลดค่าใช่จ่ายได้ร้อยละ 15 จากปัจจุบัน ซึ่งจะทำให้ไทยกลายเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางเรือในภูมิภาคเอเชียเทนที่สิงคโปร์ได้ จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลตั้งคณะทำงานขึ้นมาศึกษารายละเอียดให้แล้วเสร็จ และเริ่มเดินหน้าโครงการได้ภายใน 1 ถึง 2 ปี
สำหรับ การลงทุนนั้น ไทยไม่มีความจำเป็นต้องลงทุนเอง เพราะจีนและญี่ปุ่นพร้อมที่จะเข้ามาลงทุน หากรัฐบาลเห็นว่าโครงการนี้มีประโยชน์ก็เร่งเดินหน้าได้ทันที อย่างไรก็ตาม จะต้องรับฟังผลกระทบทั้งด้านสิ่งแวดล้อม ชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชนด้วย เพราะต้องยอมรับว่าโครงการขนาดใหญ่จะต้องมีผลกระทบบ้าง แต่ในภาพรวมเป็นผลดีต่อประเทศ
ประเด็นสำคัญ มี 5 เรื่อง ดังนี้
1.ความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ การลงทุน
2.ความมั่นคง ทั้งในและตปท
3.การจัดการด้านสิ่งแวดล้อม และชุมชน แนวเวนคืน
4.รูปแบบของการลงทุน และการร่วมทุน
5.การทำ Feasibility Study
ด้านนายเชียรช่วง กัลยาณมิตร กรรมการสภาวิจัยแห่งชาติ สาขาเศรษฐศาสตร์และบริหารธุรกิจ กล่าวว่า ความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในพม่าขณะนี้ ทำให้จีนมีความจำเป็นต้องใช้ลาวและไทย เป็นทางออกสู่มหาสมุทรอินเดีย ตามแผนชาติฉบับที่ 12 ของจีน ว่าด้วยการสร้างเส้นทางสายไหมทางทะเล ทำให้จีนมีความต้องการขุดคลองกระ ซึ่งไทยจะได้ประโยชน์จากการกำหนดพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ 2 ฝั่งคลองที่ขุดขึ้น
โดยตลอด 10 ปี ที่ก่อสร้างจะก่อให้เกิดการจ้างงานรวมกว่า 2,500,000 ตำแหน่ง รวมถึงกระตุ้นให้เกิดการลงทุนทางตรงจากต่างประเทศไม่ต่ำกว่า 2 ล้านล้านบาท สร้างรายได้ให้คนไทยเฉลี่ย 5 แสนบาทต่อคนต่อปี ทั้งนี้ หากจากมีการผลักดันต้องทำในรัฐบาลนี้เท่านั้น เพราะที่ผ่านมาแม้จะมีการพูดเรื่องนี้หลายครั้ง แต่การเมืองปกติไม่สามารถผลักดันได้
ด้านพล.ร.อ.ศุภกร บูรณดิลก อดีตผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ และอดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ กล่าวว่า การขุดคลองกระจะทำให้กองเรือซึ่งอยู่ในอ่าวไทย สามารถร่นระยะเวลาในการเดินทางไปยังฝั่งอันดามันได้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ทั้งด้านความมั่นคง และภารกิจช่วยเหลือกู้ภัย หากเกิดภัยพิบัติ เช่น สึนามิ เหมือนครั้งที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ภาพสะท้อนจากท้องถิ่น การขุดคลอง ณ บริเวณคอคอดกระ จะมีผลตอบแทนทางเศรษฐกิจสูง และบริเวณคอคอดกระเหมาะสมแก่การขุดคลองเพียงไร คุ้มค่าในการลงทุนแค่ไหนเป็นเรื่องที่ควรแก่การศึกษา คอคอดกระจึงยังอยู่ในความสนใจทั้งทางราชการ และประชาชนมาจนถึงปัจจุบัน
คอคอดกระมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับจังหวัดระนอง เพราะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันเป็นเอกลักษณ์แห่งหนึ่งของจังหวัด และอยู่ในความสนใจของนักท่องเที่ยวโดยทั่วไป
คอดกระ หรือ กิ่วกระ เป็นส่วนที่แคบที่สุดของแหลมมลายูอยู่ในเขตบ้านทับหลี ตำบลละมุ อำเภอกระบุรี จังหวัดระนอง กับ อำเภอสวี จังหวัดชุมพร ประมาณกิโลเมตรที่ 545 ของทางหลวงหมายเลข 4 ห่างจากเขตเทศบาลเมือง 66 กิโลเมตร ในบริเวณนี้มีแผ่นป้ายคอนกรีตขนาดใหญ่จำลอง
คอคอดกระ มีระยะทางจากฝั่งทะเลตะวันตกจรดฝั่งตะวันออกกว้างเพียง 44 กิโลเมตร พื้นที่ส่วนนี้นับเป็นยุทธศาสตร์สำคัญ ที่ได้รับความสนใจตั้งแต่ในสมัยพระนารายณ์มหาราช ในการที่จะขุดคลองตัดผ่านจนกระทั่ง รัชกาลที่ 4 ฝรั่งเศสคิดจะขุดคอคอดกระเพื่อร่นระยะทางในการเดินเรือจากฝั่งทะเลอันดามัน ข้ามมายังฝั่งอ่าวไทย โดยไม่ต้องอ้อมไปทางแหลมมลายู แต่เนื่องด้วยความขัดแย้งทางผลประโยชน์กับอังกฤษที่เป็นเจ้าของกิจการท่าเรือในปีนัง และสิงคโปร์โครงการนี้เลยพักไป
ในแผนที่แสดงจุดที่ตั้งของคอคอดกระ ซึ่งเป็นจุดที่ ชมทิวทัศน์ของแม่น้ำกระบุรี ซึ่งแบ่งพรม แดน ไทย-พม่าได้อย่างชัดเจน นักท่องเที่ยวนิยมถ่ายรูปเป็นที่ระลึกมากแห่งหนึ่งของจังหวัดระนอง
คอคอดกระ หรือ กิ่วกระ อยู่ในเขตบ้านทับหลี ตำบลละมุ กิโลเมตรที่ 545 ของทางหลวงหมายเลข 4 ห่างจากเทศบาลเมือง 66 กิโลเมตร บริเวณนี้เป็นส่วนที่แคบที่สุดของแหลมมลายู โดยมีระยะจากฝั่งทะเลทางตะวันตกจรดตะวันออก กว้างเพียง 44 กิโลเมตร มีแผ่นป้ายคอนกรีตขนาดใหญ่จำลองแผนที่แสดงจุดที่ตั้งของคอคอดกระ ซึ่งเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมถ่ายรูปเป็นที่ระลึกมากแห่งหนึ่งของจังหวัดระนอง และยังสามารถชมทิวทัศน์ของแม่น้ำกระบุรี ซึ่งแบ่งพรมแดนไทย-พม่า ได้อย่างชัดเจน
บทสรุปส่งท้าย โครงการขุดคลองกระไทยจะเกิดขึ้นได้รึไม่???...เมื่อทั่วสารทิศประสานเสียงขุดคลอง'คอคอดกระ' ดังนั้น บันทึกประวัติศาสตร์จะจารึกยุคของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา...ที่จะมุ่งประโยชน์ของประเทศชาติประชาชนเป็นหลักสำคัญ...
ไมค์ ณ ชุมพร...รายงาน