- Details
- Category: EEC เมกะโปรเจกต์
- Published: Monday, 21 January 2019 11:26
- Hits: 2567
คณิศ เชื่อแม้เปลี่ยนรัฐบาลไม่กระทบแผนใน EEC มั่นใจเห็นการลงทุนเพิ่มตั้งแต่ Q2/62 ช่วยหนุน GDP ไทย
นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคออก (สกพอ.) ปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ "เศรษฐกิจไทยกับการลงทุนในอีอีซี" ในงานสัมมนา "เศรษฐกิจไทยกับการเลือกตั้ง" ว่า แม้จะมีการเปลี่ยนรัฐบาล เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) อย่างแน่นอน เนื่องจาก EEC ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ และเป็นตัวที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอนาคต ซึ่งจะส่งผลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยเพิ่มขึ้นอีก 2% จึงเชื่อว่าไม่ว่าจะมีรัฐบาลไหนเข้ามาก็จะเข้ามาดำเนินการโครงการ EEC อย่างต่อเนื่อง
ขณะที่มองการลงทุนในปีนี้จะเห็นการลงทุนในด้านโครงสร้างพื้นฐานและอุตสาหกรรมของภาคเอกชนเพิ่มขึ้นในพื้นที่ EEC โดยคาดจะเห็นความชัดเจนได้ตั้งแต่ไตรมาส 2/62 เป็นต้นไป โดยในปี 61 มูลค่าการขอรับการส่งเสริมการลงทุน (BOI) อยู่ที่ 683,910 ล้านบาท
นายคณิศ กล่าวว่า การลงทุนในพื้นที่ EEC ในปีนี้ อยากเห็นการลงทุนของภาคเอกชนกลับไปที่ 10% จากขณะนี้อยู่ที่ 3% หลังการเมืองที่เข้ามามีเสถียรภาพ จะทำให้การลงทุนกลับไปที่เก่าได้
"ในภาวะเศรษฐกิจโลกที่กำลังชะลอตัวลงและมีความอ่อนไหวมาก เศรษฐกิจไทยหลังการเลือกตั้งได้มีการเตรียมกลไกบางอย่าง เพื่อสร้างสมดุลข้างในให้มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะจากการดำเนินโครงการ EEC และการเป็นประธานอาเซียน ที่จะเป็นการสร้างความร่วมมือในประเทศอาเซียน เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลก ซึ่งหากมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นแล้วมีเสถียรภาพ และดูแลการพัฒนา EEC ให้ดี เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยน่าจะขยายตัวไม่ต่ำกว่า 4% ต่อปี"
นายคณิศ กล่าวว่า นโยบายการลงทุนในโครงการ EEC ที่ผ่านมาได้มีการปรับโครงสร้างพื้นฐาน โดยเพิ่มกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายจาก 10 อุตสาหกรรม เป็น 12 อุตสาหกรรม ซึ่งอุตสาหกรรมที่เพิ่มเข้ามาใหม่เป็นลำดับที่ 11 คืออุตสาหกรรมการป้องกันประเทศ และอุตสาหกรรมที่ 12 คืออุตสาหกรรมพัฒนาคนและการศึกษา ขณะเดียวกันก็ทำเรื่องของการท่องเที่ยวและการพัฒนาเมืองใหม่ ให้ครอบคลุมถึงการศึกษาและสิ่งแวดล้อม โดยเชื่อว่าหากลงทุนได้ตามเป้าหมาย 1.7 ล้านล้านบาท ภายใน 5 ปีนี้ น่าจะมีเงินลงทุนในพื้นที่ EEC เข้ามาเพิ่มเติมอีกประมาณ 1.3 แสนล้านบาทต่อปี จาก 3 แสนล้านบาทต่อปี ในช่วง 5 ปีข้างหน้า ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวเพิ่มขึ้นอีก 2% หรือจากฐานเดิมที่ขยายตัวได้ 4% จะเห็นการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ 5-6%
"EEC จะทำหน้าที่เป็นพื้นที่ตัวอย่างในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย 4.0 โดยเราได้วางเป้าหมายการดำเนินงานของ EEC ไว้เป็นในช่วง 5 ปีแรก และช่วง 5 ปีหลัง ซึ่งเชื่อว่าจะเห็นโครงสร้างเศรษฐกิจ โครงสร้างพื้นฐานที่สมบูรณ์ โดยมีรถไฟความเร็วสูง และสนามบิน จะเสร็จสิ้นภายในปี 66 หลังจากนั้นอุตสาหกรรมเป้าหมายจะขยายตัวมากขึ้นในช่วง 5 ปีหลัง"
พร้อมกันนี้ เป็นที่น่าสนใจว่าประเทศสาธารณรัฐเช็ก ก็มีความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในพื้นที่ EEC ขณะเดียวกันประเทศญี่ปุ่นและจีนก็มีความร่วมมือกัน ที่จะขยายการลงทุนเข้ามาในประเทศที่ 3 โดยมีความสนใจในพื้นที่ EEC และสนใจลงทุนในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐาน และการทำเมืองอัจฉริยะ ส่วนความคืบหน้าเมืองการบินภาคตะวันออก น่าจะมีข้อเสนอจากบริษัทใหญ่ๆ เข้ามาภายในเดือนก.พ.นี้ ซึ่งจะได้เห็นการนำสนามบินอู่ตะเภามาใช้ประโยชน์
6 แสนล.จ่อลง EEC5 เมกะโปรเจกท์ลงนามต้นปีนี้
แนวหน้า : มีรายงานข่าวจาก เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เปิดเผยว่า ในปี 2562 อีอีซี คาดหวังว่าจะมีการลงทุนในพื้นที่อีอีซีได้ประมาณ 600,000 ล้าน ตามตัวเลขการขอรับส่งเสริมการลงทุนของ สำนักงาน ส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) ที่ระบุว่า มีโครงการยื่นขอรับส่งเสริมพื้นที่อีอีซีในปี 2561 มีจำนวน 422 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 683,910 ล้านบาท
"จากยอดขอส่งเสริมการลงทุนฯอีอีซีในปี 2561 ที่มีมูลค่า 683,910 ล้านบาท อีอีซี ต้องการให้เกิดการลงทุนจริงในปี 2562 กว่า 90%หรือ 600,000 ล้านบาท แต่ในทางปฏิบัติก็มีคู่แข่งทั้งเวียดนาม มาเลเซียที่พยายามดึงดูดนักลงทุนเช่นกัน โดยอีอีซีจะมีวิธีกระตุ้น ให้เกิดการลงทุนโดยเร็ว ด้วยการอำนวยความสะดวกให้กับนักลงทุนซึ่งทางอีอีซีมีคณะทำงานที่ให้คำแนะนำ และช่วยแก้ไขสำหรับกลุ่มที่ติดปัญหาในการลงทุน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเป้าหมายที่มีขนาดใหญ่ เช่น บางราย อาจติดข้อกฎหมาย ทางอีอีซีก็จะเข้าไปประสานกับ หน่วยงานนั้นๆ ว่าสามารถยืดหยุ่นหรือปรับเปลี่ยนกฎเกณฑ์ เพื่อสอดรับการลงทุนในปัจจุบันได้หรือไม่ เพราะกฎหมายบางตัวมีการบังคับใช้มาหลายปี เป็นต้น" รายงานระบุ
นอกจากการอำนวยความสะดวกให้กับ นักลงทุนในประเทศแล้ว ทาง อีอีซีมีกำหนดการเดินทาง ชี้แจงข้อมูลการลงทุน (โรดโชว์)ในยุโรปและเอเชีย โดยล่าสุดอดีตทูตที่มีความรู้ความสามารถประมาณ 4 คน จากยุโรปและเอเชียได้อาสาเข้ามาช่วยในการชักจูงนักลงทุน ซึ่งการเข้าไปชักจูงนักลงทุนแต่ละประเทศต้องใช้คนที่เคยอยู่ในพื้นที่และเป็นที่รู้จักเข้าไปชักจูงให้มาลงทุนในไทย อีกทั้งมีแผนที่ไปโรดโชว์นอกจากยุโรปและเอเชียอีกด้วย
สำหรับ ความคืบหน้าโครงสร้างพื้นฐาน 5 โครงการสำคัญของอีอีซี ที่คาดว่า จะได้ผู้ชนะการประมูลและลงนามในสัญญาได้ไม่เกินไตรมาสแรกของปี 2562 ได้แก่ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ที่เอกชนเป็นผู้ลงทุนประมาณ 80,000 ล้านบาท โครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา (เอ็มอาร์โอ) เอกชนลงทุน 4,255 ล้านบาท โครงการท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ส่วนท่าเรือ เอฟ เอกชนลงทุน 30,871 ล้านบาท โครงการท่าเรือมาบตาพุด ระยะที่ 3 ประมาณ 35,000 ล้านบาท และโครงการพัฒนาสนามบิน อู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก เอกชนลงทุน 272,000 ล้านบาท รวมเม็ดเงินลงทุนของภาคเอกชนประมาณ 420,000 ล้านบาท
"ทั้ง 5 โครงการดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนการประมูล และคาดว่าจะได้ผู้ชนะการประมูลและลงนามในสัญญาได้ไม่เกินไตรมาสแรกของปีนี้ หมายความว่า หลังลงนามในสัญญาแล้ว ผู้ประกอบการที่ชนะการประมูลจะต้องยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนดังกล่าวภายในปีนี้ เพื่อเดินหน้าก่อสร้างให้ทันตามระยะเวลาที่กำหนด" รายงานระบุ
ทั้งนี้ คณะกรรมการบริหารเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (กบอ.) ที่มีนายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม เป็นประธานจะมีการหารือในรายละเอียดต่างๆ และสรุปความคืบหน้า การลงทุนปี 2561 ในกลางเดือนมกราคมนี้ ก่อนที่จะประชุมกรรมการนโยบายที่มี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในช่วง ปลายเดือนมกราคมต่อไป
รื้อประมูล'เฟส3'EEC ปูทาง 32 รายยื่นซอง'แหลมฉบัง'ใหม่
แนวหน้า : นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(สกพอ.) หรือบอร์ดอีอีซี เปิดเผยว่า ตามที่ การท่าเรือแห่งประเทศไทย(กทท.) กำหนดเปิดยื่นข้อเสนอร่วมทุนโครงการท่าเรือแหลมฉบังขั้นที่ 3 (เฟส 3) ระยะที่ 1 ท่าเทียบเรือ เอฟ วงเงิน 84,361 ล้านบาท นั้น พบว่ามีผู้สนใจซื้อเอกสารโครงการถึง 32 ราย แต่มีเพียงรายเดียว ที่ยื่นประมูลคือ บจ.แอสโซซิเอท อินฟินิตี้ จากไทย แต่ต่อมาพบว่ามีคุณสมบัติไม่ครบถ้วน
"อีอีซี ได้แจ้งไปยังกทท.แล้ว ว่า ให้ขยายเวลาการยื่นเอกสารร่วมทุนออกไปก่อน 1 เดือนจากกำหนดการเดิมวันที่ 14 มกราคม 2562 เนื่องจากมีข้อจำกัด ทางด้านเวลาที่ให้บริษัทมีระยะเวลาในการเตรียมข้อเสนอโครงการค่อนข้างสั้น ประมาณ 2 เดือนเท่านั้น ซึ่ง ที่ผ่านมา มีหลายบริษัทที่สนใจซื้อเอกสารโครงการ ขอให้ขยายเวลาเข้ามาแล้ว 10 กว่ากลุ่ม ซึ่ง คณะกรรมการคัดเลือก กำลังพิจารณาเรื่องการ ขยายเวลาในการยื่นข้อเสนอแล้ว เมื่อทางกทท.ยืนยันเวลาเดิมคือวันที่ 14 มกราคม ไม่ขยายเวลาตามที่ได้เคยแจ้งไป เมื่อผลการประมูลออกมาเช่นนี้ สุดท้ายต้องขยายเวลายื่นข้อเสนอแน่นอน อย่างน้อย 1 เดือนโดยจะดำเนินการชี้แจงกับผู้ซื้อซองทั้งหมดโดยทันที" นายคณิศ กล่าว
นอกจากนี้ จะกำหนดการประชุมร่วมกับนักลงทุนทั้งหมดในวันที่ 21 มกราคมนี้ เพื่อรับฟังข้อเสนอและวางกำหนดการขยายเวลารับข้อเสนออย่างเป็นทางการ โดยการขยายเวลาครั้งนี้จะไม่กระทบกับภาพรวมระยะเวลาโครงการหลักของ อีอีซี ที่จะให้ได้ ผู้ร่วมทุนทุกโครงการภายในเดือนเมษายน 2562
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครงการท่าเรือแหลมฉบังขั้นที่ 3 ระยะที่ 1 ท่าเทียบเรือเอฟ วงเงิน 84,361 ล้านบาท มีเอกชนไทยและต่างชาติสนใจซื้อเอกสารประมูล 32 ราย มีจากไทย 17 ราย เช่น บริษัท ที ไอ พี เอส, บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น, บริษัท แหลมฉบัง อินเตอร์เนชั่นแนล เทอร์มินอล, บมจ.เจดับเบิลยูดี อินโฟโลจิสติกส์, บจ.ซีเอชอีซี (ไทย), บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์, บริษัท ซี.พี.โฮลดิ้งส์ คัมปะนี (ซี.พี.), บริษัท สุมิโตโม คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย), บริษัท พีทีที แทงค์ เทอร์มินัล (ปตท.), บริษัท ฮัทชิสัน แหลมฉบัง เทอร์มินัล, บริษัท บางกอก โมเดิร์น เทอร์มินอล จากญี่ปุ่น 3 ราย เช่น บริษัท อิโตชู คอร์ปอเรชั่น, บริษัท ฟูชิตะ คอร์ปอเรชั่น และ บริษัท มิตซุย จีน 4 ราย บริษัทไชน่า ฮาร์เบอร์ เอ็นจิเนียริ่ง, บริษัทไชน่า เรลเวย์ คอนสตรักชั่น และบริษัท ไชน่า คอมมิวนิเคชั่น คอนสตรักชั่น จากฮ่องกง 1 ราย คือ บริษัท ไชน่า เมอชานท์ พอร์ท จากฟิลิปปินส์, สิงคโปร์, เนเธอร์แลนด์, อินเดีย, สวิตเซอร์แลนด์, เบลเยียม
ร้อยตำรวจตรี มนตรี ฤกษ์จำเนียร ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง รักษาการแทนผู้อำนวยการ กทท.กล่าวว่าจะจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็น ตอบข้อซักถาม และความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ต่างๆ ในวันที่ 21 มกราคม 2562 ระหว่างเวลา 09.00-11.00 น. ณ ห้องประชุมชั้น 19 อาคาร ณ ที่ทำการ กทท. จากกลุ่มผู้ลงทุนในเรื่องคุณสมบัติของผู้ยื่นเสนอโครงการฯ และระดมความคิดเห็นเพื่อประกอบเป็นแนวทางการดำเนินการต่อไปให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
กทท.เปิดชี้แจง-รับฟังความเห็นโครงการท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 วันที่ 21 ม.ค.หลังมีผู้ยื่นซองกลุ่มเดียว-ไม่ผ่านเกณฑ์
ร.ต.ต.มนตรี ฤกษ์จำเนียร ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง รักษาการแทนผู้อำนวยการ การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เปิดเผยถึงผลการเปิดซองเอกสารประกวดราคาโครงการคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมลงทุนพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง (ทลฉ.) ระยะที่ 3 ท่าเรือ F วงเงินลงทุนกว่า 8.4 หมื่นล้านบาทว่า เอกชนสนใจซื้อเอกสารโครงการฯ จำนวน 32 ราย แต่มีผู้ยื่นซองข้อเสนอราคาเพียง 1 กลุ่มบริษัทเท่านั้น คือ บริษัท แอสโซซิเอท อินฟินิตี้ จำกัด (Associate Infinity) และเมื่อเปิดซองเอกสารดังกล่าว เมื่อวันที่ 14 ม.ค.62 ที่ผ่านมา ปรากฏว่าไม่ผ่านเกณฑ์ เนื่องจากไม่ได้เสนอหลักประกันซอง ซึ่งถือเป็นเอกสารสำคัญ จึงทำให้ กทท. ไม่สามารถพิจารณาในขั้นตอนต่อไปได้
ดังนั้น ในครั้งนี้ กทท.จะจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็น ตอบข้อซักถามและความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนต่างๆ ในวันที่ 21 ม.ค.62 ระหว่างเวลา 09.00-11.00 น. ที่ที่ทำการ กทท. โดยเฉพาะประเด็นเรื่องคุณสมบัติของผู้ยื่นเสนอโครงการฯ และจะระดมความคิดเห็นเพื่อประกอบเป็นแนวทางการดำเนินการต่อไปให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
"วันที่ 21 ม.ค.จะรับฟังความคิดเห็นของเอกชนที่มาซื้อซอง 32 ราย และอาจรวมถึงเอกชนรายอื่น ให้เขาได้ซักถามรายละเอียด อาจจะไม่เข้าใจ หรืออาจจะเข้าใจคลาดเคลื่อนไป เราคิดว่าคณะกรรมการฯคิดดีแล้ว ต้องรอฟังวันที่ 21 ม.ค.ก่อนว่าจะทำอย่างไรต่อไป" ร.ต.ต.มนตรี กล่าว
ทั้งนี้ ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง ตั้งข้อสังเกตุว่า เอกชนที่ซื้อซองเอกสาร 32 ราย ส่วนใหญ่มีการดำเนินกิจการในท่าเรือแหลมฉบังอยู่แล้ว
อนึ่ง เอกชน 32 รายที่ซื้อเอกสารคัดเลือก ได้แก่ 1.TIPS.co.LTD 2. ITOCHU Corporation LTD 3.บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (UNIQ) 4.Laem Chabang International Terminal .Co.,Ltd 5.JWD infoLogistics Public CO.LTD (JWD) 6.CHEC (Thai) Co.LTD 7.บมจ. อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) 8. บริษัท เจริญโภคภัณฑ์ โฮลดิ้ง จำกัด (ซีพี) 9.China Harbor Engineering Co.LTD 10.Fujita Corporation (Thailand) LTD
11.MITSUI &CO (Thailand) LTD 12.China Merchants Port Holdings CO.LTD 13.International Container Terminal Services , INC. 14.Sumitomo Corporation Thailand 15.PTT TANK Terminal Co.,LTD 16.PSS Organic Healing LTD 17.Hutchison Laeamchabang Terminal LTD 18.PSA International PTE.LTD 19.Bangkok Modern Terminal LTD 20.Associate Infinity CO.,LTD
21.China Railway Construction (Southeast Asia) 22.Shekou Container Terminals Ltd. 23.APM Terminals B.V. 24.Adani Ports and Special Economic Zone LTD 25.BMT Pacific CO.,LTD 26.Mediterranean Shipping (Thailand) CO.,LTD 27.Terminal Investment Limited Sari 28.Dredging International 29.Boskalis International B.V.30 C.R.C. Warf CO.,LTD 31.China Communication Constructin CO.,LTD และ 32.บมจ.เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง (PLE)
ส่อยกเลิกประมูลท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 หลังยื่นเพียงรายเดียว เอกสารไม่ครบ จากผู้ซื้อซอง 32 ราย
รายงานข่าวแจ้งว่า การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ได้ประกาศเชิญชวนและขายเอกสารคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมลงทุน ในโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 ซึ่งปรากฏว่าได้รับความสนใจจากนักลงทุนไทยและต่างชาติที่มาซื้อเอกสารในครั้งนี้จำนวน 32 ราย โดยมีกำหนดให้เอกชนยื่นเอกสารในวันจันทร์ที่ 14 มกราคม 2562 เวลา 09.00-15.00 น.ปรากฎว่า มีเอกชนยื่นซองประมูลเพียงรายเดียว คือบริษัท แอสโซซิเอท อินฟินิตี้ จำกัด โดยคณะกรรมการคัดเลือกฯได้พิจารณาซอง 1 พบว่า ไม่มีหลักประกันซอง ซึ่งถือว่าเอกสารไม่ครบตามเงื่อนไข ทำให้มีความเป็นไปได้จะต้องยกเลิกการประมูลในครั้งนี้
สำหรับ โครงการท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ท่าเทียบเรือ F วงเงิน 84,361 ล้านบาท โดยกำหนดคุณสมบัติผู้ยื่นข้อเสนอ กรณีเป็นนิติบุคคลหลายรายรวมกัน เป็นกิจการร่วมค้าต้องมีสมาชิกที่เป็นนิติบุคคลไทย 1 ราย มีสัดส่วนการลงทุนเกินกว่า 25% และมีสมาชิกที่เป็นนิติบุคคลไทยมีสัดส่วนลงทุนรวมกันเกินกว่า 51% และจะต้องเป็นผู้ซื้อเอกสารทุกราย
อนึ่ง เอกชน 32 รายที่ซื้อเอกสารคัดเลือก ได้แก่ 1.TIPS.co.LTD 2. ITOCHU Corporation LTD 3.บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (UNIQ) 4.Laem Chabang International Terminal .Co.,Ltd 5.JWD infoLogistics Public CO.LTD (JWD) 6.CHEC (Thai) Co.LTD 7.บมจ. อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) 8. บริษัท เจริญโภคภัณฑ์ โฮลดิ้ง จำกัด (ซีพี) 9.China Harbor Engineering Co.LTD 10.Fujita Corporation (Thailand) LTD
11.MITSUI &CO (Thailand) LTD 12.China Merchants Port Holdings CO.LTD 13.International Container Terminal Services , INC. 14.Sumitomo Corporation Thailand 15.PTT TANK Terminal Co.,LTD 16.PSS Organic Healing LTD 17.Hutchison Laeamchabang Terminal LTD 18.PSA International PTE.LTD 19.Bangkok Modern Terminal LTD 20.Associate Infinity CO.,LTD
21.China Railway Construction (Southeast Asia) 22.Shekou Container Terminals Ltd. 23.APM Terminals B.V. 24.Adani Ports and Special Economic Zone LTD 25.BMT Pacific CO.,LTD 26.Mediterranean Shipping (Thailand) CO.,LTD 27.Terminal Investment Limited Sari 28.Dredging International 29.Boskalis International B.V.30 C.R.C. Warf CO.,LTD 31.China Communication Constructin CO.,LTD และ 32.บมจ.เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง (PLE)
อินโฟเควสท์