- Details
- Category: บีโอไอ
- Published: Sunday, 18 September 2016 19:51
- Hits: 4772
BOI ลงทุนอุตฯดิจิทัลมาแรง 7 เดือนขอบีโอไอ 2.5 พันล.เกาหลีใต้รุกอี-คอมเมิร์ซ
ไทยโพสต์ : กรุงเทพฯ * บีโอไอเผย ยอดขอส่งเสริมในอุตฯ ดิจิทัลช่วง 7 เดือนแรกปีนี้มาแรง มีถึง 155 โครงการ เงินลงทุน 2,540 ล้านบาท แถมยังต่อคิวอีกเพียบ คาดทั้งปีมูลค่าลงทุนทะลุ 5 พันล้านบาท ด้านเกาหลีใต้จ่อเปิดสำนักงานอี-คอมเมิร์ซในไทย หลังพบเติบโตสูง
นางหิรัญญา สุจินัย เลขาธิ การคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า แนวโน้มการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัล ซึ่งเป็นหนึ่งใน 10 กลุ่มอุตสาห กรรมเป้าหมาย (เอส-เคิร์ฟ) ตามนโยบายรัฐบาล มีทิศทางขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-ก.ค.59) มีโครงการในกลุ่มนี้ยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนมากถึง 155 โครงการ คิดเป็น 1 ใน 3 ของจำนวนโครงการลงทุนทั้งหมดในเอส-เคิร์ฟที่มี 443 โครงการ มูลค่าการขอรับส่งเสริมลงทุนทั้งหมด 2,540 ล้านบาท และยังมีอีกหลายรายที่เตรียมยื่นฯ จึงคาดว่าภายในปี 2559 มูลค่าเงินลงทุนของกลุ่มนี้จะไม่น้อยกว่า 5,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ หากดูในเรื่องเงินลงทุน จะมีมูลค่าไม่สูงนัก แต่เป็นกิจการที่เน้นใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ใช้ความรู้ความสามารถของบุคลากรเข้ามาช่วยพัฒนาธุรกิจ โดยช่วงที่ผ่านมามีโครงการที่ได้อนุมัติให้ส่งเสริมลงทุนที่น่าสนใจ เช่น การลงทุนในกิจการคลาวด์เซอร์วิส (Cloud Service) โดยบริษัทที่มีความเชี่ยว ชาญจากประเทศอังกฤษ เพื่อให้บริการดูแลระบบ บริหารจัดการ รวมถึงจัดเก็บข้อมูลผ่านทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่จะช่วยให้ลูกค้าซึ่งเป็นองค์กรหรือหน่วยงานต่างๆ ในประเทศไทยลดต้นทุนค่าดูแลบำรุงรักษาระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
รวมทั้งอนุมัติส่งเสริมลงทุนแก่กิจการของผู้ประกอบธุรกิจจากเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นผู้นำอันดับหนึ่งทางด้านธุรกิจซื้อขายออนไลน์ โดยจัดทำเว็บโปรแกรมในรูปแบบการให้เช่าพื้นที่ สำหรับซื้อ-ขายสินค้าหรือให้บริการผ่านทางเว็บไซต์ เช่น สินค้าอุปโภคบริโภค เครื่องประดับ เครื่องใช้ภายในบ้าน เนื่องจากบริษัทได้เข้ามาศึกษาถึงศักยภาพของตลาดออนไลน์ในไทย และพบว่ามีอัตราการขยายตัวสูง หลังจากได้เข้าไปลงทุนในมาเลเซีย อินโด นีเซีย และตุรกี เป็นต้น
นางหิรัญญา กล่าวว่า ยังได้ อนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุนแก่ผู้ประกอบการไทยในการลงทุน กิจการศูนย์ข้อมูล (เขตดาต้าเซ็น เตอร์) มูลค่าเงินลงทุนกว่า 750 ล้านบาท ที่ จ.สระบุรี เพื่อเป็นศูนย์กลางสำหรับให้บริการด้าน เทคโนโลยีสารสนเทศแก่องค์กรต่างๆ ทั้งบริการรับฝากวางคอม พิวเตอร์แม่ข่าย บริการดูแลระบบ การดูแลป้องกันและลดความเสี่ยงการเสียหายของข้อมูล ซึ่งจะมีส่วนผลักดันให้ประเทศไทยเป็นที่ตั้งศูนย์ข้อมูลที่มีประสิทธิภาพสูงของภูมิภาค รวมถึงเป็นศูนย์กลางที่น่าเชื่อถือด้านศักยภาพและบริการไอทีในอนาคต
นอกจากนี้ บีโอไอยังให้ การส่งเสริมการลงทุนแก่บริษัทผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ สำหรับวิเคราะห์ พฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตย้อน หลังได้ถึง 30 วัน และในอนาคตบริษัทมีแผนที่จะถ่ายทอดเทคโน โลยี เทคนิคการเขียนโปรแกรม และการฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรคนไทยเพื่อให้สอดคล้องกับนโย บายส่งเสริมอุตสาหกรรมดิจิตอลของรัฐบาล. .
BOI เผย 7 เดือนกลุ่มอุตฯดิจิทัลยื่นขอรับส่งเสริมลงทุนสูงสุดใน 10 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย
นางหิรัญญา สุจินัย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เผยแนวโน้มการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัล ซึ่งเป็น 1 ใน 10 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายตามนโยบายรัฐบาลมีทิศทางขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-ก.ค.59) มีโครงการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนมากถึง 155 โครงการ หรือคิดเป็น 1 ใน 3 ของจำนวนโครงการลงทุนทั้งหมดใน 10 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายที่มีจำนวน 443 โครงการ โดยมีมูลค่าการขอรับส่งเสริมลงทุนรวม 2,540 ล้านบาท และยังมีบริษัทในกลุ่มดิจิทัลอีกหลายรายที่เตรียมยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุน ซึ่งคาดว่าภายในปี 2559 มูลค่าเงินลงทุนของกลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัลจะไม่น้อยกว่า 5,000 ล้านบาท
เลขาธิการบีโอไอ กล่าวว่า หากพิจารณาเรื่องเงินลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัลจะมีมูลค่าไม่สูงนัก แต่เป็นกิจการที่เน้นใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ใช้ความรู้ความสามารถของบุคลากรเข้ามาช่วยพัฒนาธุรกิจ โดยช่วงที่ผ่านมามีโครงการที่ได้อนุมัติให้ส่งเสริมลงทุนที่น่าสนใจ อาทิ การลงทุนในกิจการคลาวด์เซอร์วิส (Cloud Service) โดยบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญจากประเทศอังกฤษ เพื่อให้บริการดูแลระบบ บริหารจัดการ รวมถึงจัดเก็บข้อมูลผ่านทางเครือข่ายอินเตอร์เน็ตที่จะช่วยให้ลูกค้าซึ่งเป็นองค์กรหรือหน่วยงานต่างๆ ในประเทศไทยลดต้นทุนค่าดูแลบำรุงรักษาระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ขณะเดียวกันทำให้ลูกค้ามีระบบสำรองข้อมูลที่ดีและมีเครือข่ายความเร็วสูง รวมทั้งได้อนุมัติส่งเสริมลงทุนแก่กิจการของผู้ประกอบธุรกิจจากสาธารณรัฐเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นผู้นำอันดับหนึ่งทางด้านธุรกิจอีคอมเมิร์ช และร้านค้าออนไลน์ (Commerce Platform Service Provider) โดยบริษัทสนใจเข้ามาลงทุนในกิจการอีคอมเมิร์ช (E-Commerce) จัดทำเว็บโปรแกรมในรูปแบบการให้เช่าพื้นที่ สำหรับซื้อ-ขายสินค้าหรือให้บริการ ผ่านทาง World Wide Web (WWW) เช่น สินค้าอุปโภคบริโภค เครื่องประดับ เครื่องใช้ภายในบ้าน เป็นต้น เนื่องจากบริษัทได้เข้ามาศึกษาถึงศักยภาพของตลาดออนไลน์ในประเทศไทยและพบว่ามีอัตราการขยายตัวสูง หลังจากที่ผ่านมาได้เข้าไปลงทุนในตลาดออนไลน์แล้วในหลายประเทศ อาทิ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และตุรกี
นอกจากนี้ ยังได้อนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุนแก่ผู้ประกอบการไทยในการลงทุนกิจการเขตดาต้าเซ็นเตอร์ (Data Center) มูลค่าเงินลงทุนกว่า 750 ล้านบาท ที่จังหวัดสระบุรี เพื่อเป็นศูนย์กลางสำหรับให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศแก่องค์กรต่างๆ ทั้งบริการรับฝากวางคอมพิวเตอร์แม่ข่าย บริการดูแลระบบ การดูแลป้องกันและลดความเสี่ยงการเสียหายของข้อมูล ซึ่งการลงทุนของบริษัทจะมีส่วนผลักดันให้ประเทศไทยเป็นที่ตั้งศูนย์ข้อมูลที่มีประสิทธิภาพสูงของภูมิภาค รวมถึงเป็นศูนย์กลางที่น่าเชื่อถือด้านศักยภาพและบริการไอทีในอนาคต
เลขาธิการบีโอไอ กล่าวว่า ยังให้การส่งเสริมการลงทุนแก่บริษัทผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ สำหรับวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้อินเตอร์เน็ตย้อนหลังได้ถึง 30 วัน ซึ่งเป็นเทคโนโลยีขั้นสูง และในอนาคตบริษัทมีแผนจะถ่ายทอดเทคโนโลยี เทคนิคการเขียนโปรแกรม และการฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรคนไทยเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรมดิจิทัลของรัฐบาล
อินโฟเควสท์