- Details
- Category: บีโอไอ
- Published: Monday, 11 April 2016 23:13
- Hits: 8564
สั่งบีโอไอ ตั้งหน่วยรบพิเศษสมคิดดันลงทุน 7 แสนล.ฟุ้งยอดใช้ปูน Q1 ทะลุ 5%
ไทยโพสต์ : วิภาวดีรังสิต * 'สมคิด'สั่งบีโอไอตั้งหน่วยรบพิเศษ เร่งรัดให้เกิดการลงทุนจริงปีนี้ ตั้งเป้า 7 แสนล้านบาท พร้อมเปิดเกมรุกดึงต่างชาติเพิ่มยอดขอส่งเสริมการลงทุน คาดทั้งปี 4.5 แสนล้านบาท ด้านการใช้ปูนซีเมนต์ไตรมาสแรกโตขึ้นกว่า 5% จากปีที่แล้ว
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังเข้าตรวจเยี่ยมผลการดำเนินงานของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ในวันที่ 8 เม.ย.59 ว่า มอบนโยบายให้บีโอไอจัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจ โดยทำหน้าที่เสมือนหน่วยรบพิเศษเข้าไปติดตามการลงทุนของภาคเอกชนที่มีการยื่นขอการส่งเสริมการลงทุนไปแล้ว แต่ยังไม่มีการลงทุนจริง ให้เกิดการลงทุนจริง เนื่องจากในปี 2557 มีการขอส่งเสริมลงทุนคิดเป็นเงิน 1.95 ล้านล้านบาท แต่มีการ ลงทุนจริงเพียง 635,400 ล้านบาท ซึ่งในปีนี้ตั้งเป้าไว้ที่ 600,000-700,000 ล้านบาท
"การตั้งคณะกรรมการดัง กล่าว ยังจะเป็นกลุ่มที่เข้าไปเจาะ ตลาดนักลงทุนใน 4 ประเทศหลัก ที่มีการขอส่งเสริมการลงทุนสูง ได้แก่ ญี่ปุ่น จีน เกาหลี และสิงคโปร์ ให้มีการขอส่งเสริมฯ เพิ่ม ขึ้นอีก โดยจะเจาะทั้งกลุ่มธุรกิจรายใหญ่และรายย่อย โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่นที่มีการลงทุนในไทยสูงที่สุด แต่จะไม่ทิ้งในกลุ่มประเทศอื่นๆ" นายสมคิดกล่าว
สำหรับ การขอส่งเสริมการลงทุนนั้น ประเทศญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะเป็นการลงทุนด้านการผลิตชิ้นส่วนระบบเครื่องยนต์มูลค่า 7,200 ล้านบาท และการผลิตรถยนต์ 2,875 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีการลงทุนของเนเธอร์แลนด์ เป็นกลุ่มการผลิตเคมีภัณฑ์ (พอลิเมอร์) ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 4,000 ล้านบาท, คอนแทคเลนส์ 2,401 ล้านบาท จากจีนเป็นการผลิตซิลิก้า 1,400 ล้านบาท ชิ้นส่วน โซลาร์เซลล์ 728 ล้านบาท และเกาหลีใต้ เป็นการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง 3,541 ล้านบาท
นายสมคิด กล่าวว่า ยอดขอส่งเสริมการลงทุนในไตรมาสแรกของปีนี้หรือ ม.ค.-มี.ค. มีมูลค่า 89,900 ล้านบาท โตขึ้น 234% เทียบกับปีที่แล้ว หรือมีทั้งหมด 311 โครงการ โตขึ้นจากปีที่แล้ว 98% ซึ่งมั่นใจว่าภายในครึ่งปีแรกของปีนี้จะมียอดขอส่งเสริมการลงทุนกว่า 2 แสนล้านบาท และคาดว่าทั้งปีจะมียอดขอส่งเสริมฯ เป็นมูลค่า 450,000 ล้านบาท
"รัฐบาลเดินมาถูกทางแล้ว ส่งผลให้แนวโน้มการลงทุนของอุตสาหกรรมในปีนี้ดีขึ้น โดยจะ พยายามทำให้เพิ่มมากกว่านี้ พร้อม กระตุ้นการบริโภค ดูแลภาคเกษตร เพื่อชดเชยการส่งออกที่ได้รับผล กระทบจากเศรษฐกิจโลก ที่สำคัญต้องทำให้การเมืองมีเสถียรภาพด้วย ซึ่งรัฐบาลก็พยายามดูแลไม่ให้มีสุญญากาศ เชื่อว่าทุกอย่างจะไปได้" นายสมคิดกล่าว
นายกานต์ ตระกูลฮุน ในฐานะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า ภาพรวมการใช้ปูนซีเมนต์ปรับตัวดีขึ้นมาก โดยไตรมาสแรกของปีนี้โตขึ้น 5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และขยายตัว 2% จากไตรมาสที่ 4 ของปี 2558
สำหรับ การใช้ซีเมนต์นั้นแบ่งเป็น 3 ส่วนใหญ่ ได้แก่ ส่วนที่อยู่อาศัยมีสัดส่วน 50% จากการใช้ทั้งหมด ซึ่งในไตรมาสแรกของปีนี้ติดลบอยู่ที่ 2% จากเดิมที่คาดว่าติดลบ 5%, ส่วนภาคอุตสาหกรรมมีสัดส่วน 18% จากการใช้ทั้งหมด มีการใช้เติบโตขึ้น 1%, ภาคการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานมีสัดส่วน 30% จากการใช้ทั้งหมด มีการใช้เติบโตขึ้น 19% จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโตที่ 11%
"การใช้ซีเมนต์ไม่มีการเติบ โตต่อเนื่องมา 2 ปีแล้ว ซึ่งได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจต่างๆ แต่ในปีนี้จะมีการเติบโตอย่างแน่นอนเนื่องจากภาคการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ บาลมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง คาด ว่าในอนาคตสัดส่วนการลงทุนดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นจาก 30% อีกด้วย" นายกานต์กล่าว.
