- Details
- Category: บีโอไอ
- Published: Sunday, 16 September 2018 21:51
- Hits: 7911
ไทยออยล์'จ่อทุ่ม 1.56 แสนล.ผุดโรงกลั่นน้ำมันเครื่องบินรับ EEC
แนวหน้า : นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) กล่าวว่า คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บอร์ดบีโอไอ) ได้พิจารณาให้การส่งเสริมโครงการลงทุนจำนวน 4 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 167,679 ล้านบาท ประกอบด้วย บมจ.ไทยออยล์ ได้รับส่งเสริมกิจการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงสำเร็จรูป เงินลงทุนทั้งสิ้น 156,621 ล้านบาท ตั้งโครงการที่จังหวัดชลบุรี โดยโครงการนี้จะเพิ่มความสามารถในการกลั่นน้ำมันดิบที่มีความหลากหลาย โดยเฉพาะการผลิตน้ำมันอากาศยานและน้ำมันดีเซลเพื่อรองรับการเป็นศูนย์กลางการขนส่งและเมืองการบินของเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี รวมทั้งช่วยเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานในระยะยาว โดยรองรับความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศที่เพิ่มขึ้น และยังจะช่วยต่อยอดอุตสาหกรรมปิโตรเคมีขั้นต้นอีกด้วย
นอกจากนี้ ยังมี บริษัท สยาม เด็นโซ่ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ได้รับส่งเสริมกิจการผลิตชิ้นส่วนระบบเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องยนต์ดีเซลที่ลดการใช้น้ำมันและการปล่อยมลพิษเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานยูโรใหม่ เงินลงทุนทั้งสิ้น 3,973 ล้านบาท ตั้งโครงการที่จังหวัดชลบุรี โดยโครงการนี้จะใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศปีละกว่า 2,632.6 ล้านบาท และช่วยสร้างความเข้มแข็งแก่อุตสาหกรรม ชิ้นส่วนยานยนต์ของไทย
บริษัท ผลิตไฟฟ้า นวนคร จำกัด ได้รับส่งเสริมกิจการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติ 60 เมกะวัตต์ และไอน้ำ 10 ตันต่อชั่วโมง เงินลงทุนทั้งสิ้น 3,105 ล้านบาท ตั้งโครงการที่จังหวัดปทุมธานี โครงการนี้เป็นโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม ซึ่งนำอากาศเสียที่มีความร้อนสูงมาใช้ต่อ จึง ช่วยประหยัดพลังงาน และเป็นการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศไทย
โครงการที่ 4 บมจ. โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) ได้รับ ส่งเสริมกิจการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติ 57 เมกะวัตต์ และไอน้ำ 70 ตันต่อชั่วโมง เงินลงทุนทั้งสิ้น 3,980 ล้านบาท ตั้งโครงการที่จังหวัดระยอง โครงการนี้เป็นโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม ซึ่งนำอากาศเสียที่มีความร้อนสูงมาใช้ต่อ จึงช่วยประหยัดพลังงาน และเป็นการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศไทย
BOI ไฟเขียวส่งเสริมการลงทุน 4 โครงการใหญ่ มูลค่าลงทุนกว่า 1.67 แสนลบ.
นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาให้การส่งเสริมโครงการลงทุนจำนวน 4 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 167,679 ล้านบาท
ประกอบด้วย โครงการที่ 1 บริษัท สยาม เด็นโซ่ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ได้รับส่งเสริมกิจการผลิตชิ้นส่วนระบบเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องยนต์ดีเซลที่ลดการใช้น้ำมันและการปล่อยมลพิษเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานยูโรใหม่ เงินลงทุนทั้งสิ้น 3,973 ล้านบาท ตั้งโครงการที่จังหวัดชลบุรี โดยโครงการนี้จะใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศปีละกว่า 2,632.6 ล้านบาท และช่วยสร้างความเข้มแข็งแก่อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ของไทย
โครงการที่ 2 บมจ.ไทยออยล์ (TOP) ได้รับส่งเสริมกิจการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงสำเร็จรูป เงินลงทุนทั้งสิ้น 156,621 ล้านบาท ตั้งโครงการที่จังหวัดชลบุรี โดยโครงการนี้จะเพิ่มความสามารถในการกลั่นน้ำมันดิบที่มีความหลากหลาย โดยเฉพาะการผลิตน้ำมันอากาศยานและน้ำมันดีเซลเพื่อรองรับการเป็นศูนย์กลางการขนส่งและเมืองการบินของเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี รวมทั้งช่วยเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานในระยะยาว โดยรองรับความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศที่เพิ่มขึ้น และยังจะช่วยต่อยอดอุตสาหกรรมปิโตรเคมีขั้นต้นอีกด้วย
โครงการที่ 3 บริษัท ผลิตไฟฟ้า นวนคร จำกัด ได้รับส่งเสริมกิจการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติ 60 เมกะวัตต์และไอน้ำ 10 ตันต่อชั่วโมง เงินลงทุนทั้งสิ้น 3,105 ล้านบาท ตั้งโครงการที่จังหวัดปทุมธานี โครงการนี้เป็นโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม ซึ่งนำอากาศเสียที่มีความร้อนสูงมาใช้ต่อ จึงช่วยประหยัดพลังงาน และเป็นการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศไทย
โครงการที่ 4 บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) ได้รับส่งเสริมกิจการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติ 57 เมกะวัตต์และไอน้ำ 70 ตันต่อชั่วโมง เงินลงทุนทั้งสิ้น 3,980 ล้านบาท ตั้งโครงการที่จังหวัดระยอง โครงการนี้เป็นโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม ซึ่งนำอากาศเสียที่มีความร้อนสูงมาใช้ต่อ จึงช่วยประหยัดพลังงาน และเป็นการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศไทย
นางสาวดวงใจ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้บีโอไอจัดเตรียมมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวไปเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวในพื้นที่ หรือเมืองรอง รวมถึงการท่องเที่ยวทางทะเล เช่น โครงการไทยแลนด์ริเวียร่า โดยการส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวมีหลายประเภทกิจการที่บีโอไอให้การส่งเสริมอยู่ เช่น เรือเฟอรรี่ ทำท่าเรือท่องเที่ยว สวนสนุก พิพิธภัณฑ์ ศูนย์แสดงศิลปะวัฒนธรรม ซึ่งทางบีโอไอจะนำไปพิจารณาเพื่อจัดทำมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในระดับท้องถิ่นต่อไป
ทั้งนี้ เลขาบีโอไอ เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้อนุมัติในหลักการร่างทีโออาร์ที่เปิดโอกาสให้ภาคเอกชนมาร่วมลงทุนในโครงการขยายท่าเรืออุตสาหกรรม มาบตาพุดในระยะที่ 3 และเข้าข่ายกิจการระบบขนถ่ายสินค้า
"ถ้าหากอยากให้เอกชนที่มารับงานได้รับสิทธิประโยชน์ด้วย ก็ต้องทำเรื่องมาขออนุมัติในหลักการก่อน ก่อนที่จะไปออกเอกสารเพื่อเชิญเอกชนมาประมูล...เป็นการอนุมัติในหลักการและเขาไปใส่บรรุจในทีโออาร์เวลาเปิดการประมูล ทุกคนได้ทราบถ้วนหน้าเวลามาประมูลจะได้สิทธิประโยชน์อะไรบ้าง"นางสาวดวงใจ กล่าว
ด้านนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ กล่าวภายหลังประชุมว่า ที่ประชุมฯ ได้สั่งการให้ทางบีโอไอจัดหามาตราการส่งเสริมการท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ทั้งการท่องเที่ยวทางทะเล การท่องเที่ยวในเมืองรอง รวมถึง การส่งเสริมการท่องเที่ยวใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย
อินโฟเควสท์