แม้จะมีการคาดกันว่าในอีก 40 ปีข้างหน้า ประชากรของโลกจะเพิ่มจาก 7,000 ล้านคนในปัจจุบันเป็น 9,000 ล้านคน ทำให้ความต้องการอาหารเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ประกอบกับผลของการพัฒนาเศรษฐกิจโดยเฉพาะในจีนและอินเดียก็จะยิ่งกดดันให้มีการผลิตอาหารมากยิ่งขึ้น

    พืช GM จึงเป็นทางออกหนึ่งของการผลิตอาหารเพื่อตอบสนองความต้องการอันมหาศาลดังกล่าวนี้ แต่อย่างไรก็ตาม พืช GM ในปัจจุบัน (1.0) เช่น มันฝรั่ง ถั่วเหลือง ข้าวโพด และข้าว ถูกออกแบบมาเพื่อลดการใช้ยาฆ่าแมลงและยาปราบศัตรูพืช ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการต่อต้านการปลูกและการบริโภคพืช GM กันในหลายประเทศ โดยเฉพาะประเทศในยุโรป เช่น เยอรมัน

     ดังนั้น หลายประเทศจึงเร่งวิจัยและพัฒนาพืช GM ยุคใหม่ (2.0) ขึ้น เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มากขึ้นพร้อมๆกับไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมและมีความยั่งยืน เช่น อังกฤษกำลังพัฒนา (ถึงขั้นการทดลองระดับฟาร์ม) ข้าวสาลี GM แห่งแรกของโลกที่ใช้กลิ่นขับไล่เพลี้ย ถึงที่ Hertfordshire

    และนอกจากข้าวสาลี GM ที่ใช้กลิ่นไล่แมลงได้แล้ว ก็ยังมีข้าวที่มีแร่ธาตุสังกะสีมากเพื่อช่วยประชากรโลกที่มีธาตุสังกะสีต่ำ มีมะเขือเทศสีม่วงเช่นเดียวกับบลูเบอร์รี่และเบล็คเบอร์รี่ซึ่งมีสารต้านอนุมูลอิสระมากเพื่อป้องกันมะเร็ง และพืช GM ที่ใส่ยีนส์ของปลาที่มีโอเมก้า 3 เพื่อให้ผู้ทานพืชมีสุขภาพแข็งแรง

     พืช GM (2.0) จึงเป็นความหวังของการปฎิวัติเขียวของโลกการเกษตรครับ