- Details
- Category: USA
- Published: Sunday, 08 October 2017 12:03
- Hits: 7291
ผู้ว่าการเฟดชี้การเพิ่มกฎข้อบังคับไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหา
นายเจอโรม พาวเวลล์ หนึ่งในคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้กล่าวแสดงความเห็นเมื่อวานนี้ว่า การเพิ่มกฎระเบียบและกฎข้อบังคับ ไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุดเสมอไปในการแก้ปัญหาในตลาดการเงิน พร้อมระบุว่า หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐควรตัดสินใจในเรื่องดังกล่าวอย่างสมดุล
นายพาวเวลล์ ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวเก็งที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานเฟด ต่อจากนางเจเน็ต เยลเลน ซึ่งจะครบวาระการดำรงตำแหน่งในเดือนก.พ.ปีหน้านั้น ได้กล่าวในที่ประชุมนายธนาคาร นักกฎหมาย และนักลงทุน ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงนิวยอร์กว่า ภาคอุตสาหกรรมสามารถเข้ามามีส่วนช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ขาดหายไป อันเป็นผลมาจากการออกกฎข้อบังคับโดยหน่วยงานต่างๆของรัฐบาล
นายพาวเวลล์ ยังกล่าวด้วยว่า กฎข้อบังคับถือเป็นสิ่งที่มีบทบาทต่อระบบเศรษฐกิจ แต่ก็ควรพิจารณาถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อตลาด และควรมีการนำมาใช้อย่างสมดุล พร้อมระบุว่า การเพิ่มกฎข้อบังคับนั้น ไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุดเสมอไป ในการแก้ปัญหาทุกอย่าง
ทั้งนี้ ตลาดการเงินจับตาการแสดงความเห็นของนายพาวเวลล์ในครั้งนี้อย่างใกล้ชิด หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ปธน.ทรัมป์ได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ 4 คนที่เขาคาดหวังว่าจะแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่ ซึ่งรวมถึงนายแกรี โคห์น หัวหน้าที่ปรึกษาเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์, นายเควิน วอร์ช อดีตผู้ว่าการเฟด และนายเจอโรม พาวเวลล์
ประธานเฟดซานฟรานซิสโกหนุนเฟดขึ้นดอกเบี้ย เหตุอัตราว่างงานต่ำ,เงินเฟ้ออาจดีดตัว
นายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาซานฟรานซิสโก กล่าวว่า เฟดมีความจำเป็นที่จะต้องเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น ขณะที่อัตราการว่างงานอยู่ในระดับต่ำ และเงินเฟ้อมีแนวโน้มดีดตัวขึ้นอีก
นายวิลเลียมส์กล่าวว่า เขาไม่จำเป็นต้องเห็นการดีดตัวของเงินเฟ้อเพื่อที่จะสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในปีนี้ ตราบใดที่ข้อมูลอื่นๆให้คำตอบว่าเศรษฐกิจยังคงขยายตัวต่อไปหรือไม่
เขายังระบุว่า อัตราดอกเบี้ยระยะยาวควรมีการปรับตัวขึ้น ขณะที่เฟดทำการปรับลดงบดุลในระยะยาว
นายวิลเลียมส์กล่าวว่า แนวโน้มระยะยาวในการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐอาจอยู่ในระดับต่ำเพียง 1.5% ขณะที่เจ้าหน้าที่เฟดรายอื่นมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัวในช่วง 1.5-2.2%
นายวิลเลียมส์ระบุเตือนว่า ตราบใดที่ยังไม่มีการกำหนดภาษี และนโยบายอื่นๆอย่างระมัดระวังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็จะทำให้เกิดความเสี่ยงจากภาวะที่ไม่สมดุล เช่น ภาวะฟองสบู่ และเงินเฟ้อที่พุ่งสูง
นายวิลเลียมส์กล่าวว่า เฟดกำลังพยายามรักษาการขยายตัวทางเศรษฐกิจให้มีความยั่งยืนให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้
อินโฟเควสท์