- Details
- Category: USA
- Published: Saturday, 14 November 2015 12:53
- Hits: 6486
IMF เตือนเศรษฐกิจโลกเผชิญความเสี่ยง เหตุอัตราขยายตัวต่ำอย่างต่อเนื่อง
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เตือนว่า เศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญกับความเสี่ยงอันเนื่องมาจากมีอัตราการขยายตัวที่ต่ำอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับเรียกร้องให้กลุ่มประเทศ G20 ดำเนินปฏิรูปเชิงโครงสร้างเพื่อลดความเสี่ยง
IMF แสดงความเห็นดังกล่าวในรายงาน "Note on Global Prospects and Policy Challenges" ก่อนที่ประชุมกลุ่ม G20 จะมีขึ้นที่ประเทศตุรกี
"แนวโน้มเศรษฐกิจโลกได้อ่อนแรงลงอย่างต่อเนื่องในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา และการที่เศรษฐกิจขยายตัวในระดับต่ำเป็นเวลานานเช่นนี้อาจจะทำให้เศรษฐกิจโลกตกอยู่ในความเสี่ยง นอกเหนือไปจากปัญหาความยากจนและอัตราว่างงานที่อยู่ในระดับสูงเกินกว่าจะรับได้ " รายงานระบุ
ทั้งนี้ IMF เรียกร้องให้มีการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจเพื่อเพิ่มอัตราการขยายตัวในอนาคต พร้อมกับใช้มาตรการที่มีศักยภาพในการกระตุ้นอุปสงค์ โดยในประเทศกลุ่มตลาดเกิดใหม่นั้น การส่งเสริมอุปสงค์ควรจะพิจารณาอย่างระมัดระวังเมื่อต้องแลกกับความจำเป็นในการจัดการกับประเด็นที่เปราะบาง
IMF คาดว่า เศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 3.6% ในปี 2559 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2554 โดยระบุว่า ประเทศอุตสาหกรรมขนาดใหญ่จะได้รับประโยชน์จากภาวะการเงินที่เอื้ออำนวยและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่อยู่ในระดับต่ำ นอกจากนี้ คาดว่าเศรษฐกิจในกลุ่มตลาดเกิดใหม่จะฟื้นตัวขึ้นในปีหน้า หลังจากที่ชะลอตัวลงมาเป็นเวลานานถึง 5 ปี
IMF เตือนเฟดรอความชัดเจนของเงินเฟ้อ,ตลาดแรงงานก่อนปรับขึ้นดอกเบี้ย
รายงานจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ระบุว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ควรรอต่อไปเพื่อให้เห็นสัญญาณที่ชัดเจนของเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง ก่อนที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
ทั้งนี้ ในรายงานที่จัดเตรียมไว้สำหรับการประชุมกลุ่มจี-20 ที่ตุรกี IMF ระบุว่า ระบบเศรษฐกิจที่ยังคงมีสมรรถนะส่วนเกิน และอัตราเงินเฟ้อที่ระดับต่ำมาก เป็นเหตุผลสนับสนุนการผ่อนคลายนโยบายการเงินในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่
รายงานระบุอีกว่า การที่สหรัฐมีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ประเทศที่พัฒนาแล้วเตรียมผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อไป ถือเป็นความเสี่ยงที่จะกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลก ขณะที่เศรษฐกิจจีนชะลอตัวลง ท่ามกลางการสิ้นสุดวงจรเฟื่องฟูของสินค้าโภคภัณฑ์
ประธานเฟดเซนต์หลุยส์แนะเฟดขึ้นดอกเบี้ย เหตุนโยบายการเงินบรรลุผลแล้ว
นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวว่า เฟดควรออกจากนโยบายที่กำหนดให้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ใกล้ 0% เนื่องจากนโยบายดังกล่าวได้บรรลุผลส่วนใหญ่ตามที่ต้องการแล้ว
"เนื่องจากมีการบรรลุเป้าหมายด้านนโยบายแล้ว เราจึงควรปรับนโยบายและงบดุลของเรากลับสู่แบบปกติ" เขากล่าว
นายบูลลาร์ดยังระบุว่า อัตราว่างงานของสหรัฐซึ่งอยู่ที่ 5% ในขณะนี้ ถือว่าแทบไม่แตกต่างจากค่ากลางในการประเมินของเฟดในระยะยาวที่ระดับ 4.9%
ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวว่า เขาต้องการที่จะกลับไปสู่นโยบายดุลยภาพที่เฟดใช้ในระหว่างปี 1984-2007 ซึ่งเกี่ยวข้องกับนโยบายการเงินที่ดี และการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระยะยาว รวมทั้งการมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าในปัจจุบัน
อินโฟเควสท์