ชาวเมืองใหญ่อาจใฝ่ฝันที่จะลดค่าใช้จ่ายโดยการย้ายมาอยู่ในประเทศ แต่การเป็นเจ้าของบ้านในเมืองเล็กๆ อาจมีราคาแพงพอๆ กับมหานครใหญ่ และในบางกรณี อสังหาริมทรัพย์อาจมีราคาสูงกว่า

       นั่นเป็นไปตามการศึกษาของ LendingTree ซึ่งวิเคราะห์ราคาบ้านในเมืองเล็กๆ ที่แพงที่สุดของประเทศบางแห่ง

       การวิเคราะห์แสดงให้เห็นว่าเมืองเล็ก ๆ ที่แพงที่สุดมักจะเป็นสถานที่พักผ่อนยอดนิยมสำหรับคนร่ำรวย ซึ่งผู้ซื้อบ้านทำเงินจากที่อื่น

       ตัวอย่างเช่น Vineyard Haven, Mass., Breckenridge, Colo. และ Jackson, Wyo. มีราคากลางอยู่ที่ 699,500 ดอลลาร์, 579,600 ดอลลาร์ และ 549,800 ดอลลาร์ตามลำดับ

ในการเปรียบเทียบ บางคนอาจใช้จ่าย 613,400 ดอลลาร์เพื่อซื้อบ้านในลอสแองเจลิส หรือ 563,700 ดอลลาร์สำหรับอสังหาริมทรัพย์ในซานดิเอโก

ต่อไปนี้คือ 10 เมืองเล็กๆ ที่แพงที่สุดในอเมริกา :

1. Vineyard Haven, แมสซาชูเซตส์ 
2. เบรกเคนริจด์ CO 
3. แจ็คสัน รัฐไวโอมิง 
4. สตีมโบทสปริงส์ โคโลราโด 
5. Hailey ID 
6. Gardnerville Ranchos, NV 
7. ฮูดริเวอร์, OR 
8. จูโน, AK 
9. อีสตัน แมรี่แลนด์ 
10. Los Alamos, นิวเม็กซิโก 

เพิ่มเติมจากการเงินส่วนบุคคล :
      กรมแรงงานอัดฉีดเงิน 240 ล้านดอลลาร์เข้าสู่ระบบการว่างงานเพื่อต่อสู้กับการฉ้อโกง
ก่อนที่คุณจะเข้าร่วมใน ‘การลาออกครั้งใหญ่’ ทำการเคลื่อนไหวทางการเงินเหล่านี้
วิธีจัดการกับ Medicare หากคุณกลับมาสหรัฐอเมริกาหลังจากอาศัยอยู่ต่างประเทศ

แม้ว่าการอยู่อาศัยในเมืองเล็ก ๆ อาจมีราคาแพง แต่ก็มีสองสามวิธีในการลดต้นทุนการเป็นเจ้าของบ้าน ผู้ซื้ออาจซื้อของเพื่อการจำนองเพื่อให้ได้อัตราที่ดีที่สุด

      พวกเขาอาจพิจารณาเงินกู้ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลผ่านทางกระทรวงเกษตรของสหรัฐอเมริกาเพื่อการชำระเงินดาวน์ที่ต่ำกว่าและอัตราดอกเบี้ยที่ถูกกว่าสำหรับบ้านในชนบท นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายในการปิดบางส่วนอาจสามารถต่อรองได้