- Details
- Category: CHINA
- Published: Sunday, 26 May 2024 13:45
- Hits: 4864
SMIC ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดของจีนเตือนถึงการแข่งขันที่’ดุเดือด’ เนื่องจากพลาดการคาดการณ์กำไรรายไตรมาส
CNBC CHINA MARKETS TECH : Sheila Chiang @IN/SHEILACHIANG @SHEILACHIANG
ประเด็นสำคัญ
SMIC เมื่อวันศุกร์เตือนถึงการแข่งขันที่รุนแรง เนื่องจากรายได้สุทธิของบริษัทลดลง 68.9% จากปีก่อนหน้าเหลือ 71.79 ล้านดอลลาร์
อัตรากำไรขั้นต้นลดลงเหลือ 13.7% ในไตรมาสนี้ ซึ่งต่ำที่สุดที่บริษัทเคยบันทึกไว้นับตั้งแต่เกือบ 12 ปี ตามข้อมูล LSEG
“การแข่งขันในอุตสาหกรรมรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และราคาสินค้าโภคภัณฑ์โดยพื้นฐานแล้วเป็นไปตามแนวโน้มของตลาด” SMIC กล่าวเมื่อวันศุกร์ในระหว่างการรายงานผลประกอบการของบริษัท
ปักกิ่ง, CHINA, DECEMBER 04: โลโก้แขวนอยู่บนอาคารของสาขาปักกิ่งของบริษัทการผลิตเซมิคอนดักเตอร์นานาชาติ(SMIC) ในวันที่ 4 ธันวาคม 2020 ในกรุงปักกิ่ง, จีน. (ภาพโดย VCG/VCG ผ่าน Getty Images)
วีซีจี | วิชวลไชน่ากรุ๊ป | เก็ตตี้อิมเมจ
บริษัทเซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง อินเตอร์เนชั่นแนล คอร์ปอเรชั่น
เมื่อวันศุกร์เตือนถึงการแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรมชิปหลังจากกำไรไตรมาสแรกพลาดความคาดหวัง
“การแข่งขันในอุตสาหกรรมรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และราคาสินค้าโภคภัณฑ์โดยพื้นฐานแล้วเป็นไปตามแนวโน้มของตลาด” SMIC กล่าวเมื่อวันศุกร์ในระหว่างการรายงานผลประกอบการของบริษัท
“บริษัทเติมเต็ม [มุมมองระยะยาว] ด้วยการสร้างแพลตฟอร์มเทคโนโลยีที่มีคุณภาพซึ่งจะก้าวกระโดดที่นี่ในจีนแผ่นดินใหญ่หนึ่งถึงสองชั่วอายุคน” SMIC กล่าว
SMIC ผู้ผลิตชิปตามสัญญารายใหญ่ที่สุดของจีน ถูกมองว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความทะเยอทะยานของปักกิ่งที่จะลดการพึ่งพาจากต่างประเทศในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในประเทศ ในขณะที่สหรัฐฯ ยังคงควบคุมอำนาจทางเทคโนโลยีของจีนต่อไปSMIC ตามหลังTSMCของไต้หวัน
และบริษัท Samsung Electronics ของเกาหลีใต้ อ้างจากนักวิเคราะห์
รายได้สุทธิไตรมาสแรกของบริษัทลดลง 68.9% จากปีก่อนหน้าเป็น 71.79 ล้านดอลลาร์ เทียบกับประมาณการเฉลี่ยของนักวิเคราะห์ LSEG ที่ 80.49 ล้านดอลลาร์
อัตรากำไรขั้นต้นลดลงเหลือ 13.7%ในไตรมาสนี้ ซึ่งต่ำที่สุดที่บริษัทเคยบันทึกไว้ในรอบเกือบ 12 ปี ตามข้อมูล LSEG
รายรับสำหรับไตรมาสแรกอยู่ที่ 1.75 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 19.7% จากปีก่อนหน้า เนื่องจากลูกค้าตุนชิป SMIC กล่าว ซึ่งเอาชนะประมาณการของ LSEG ที่ 1.69 พันล้านดอลลาร์ได้อย่างคล่องแคล่ว
Pat Gelsinger CEO ของ Intel เกี่ยวกับการสร้างโรงหล่อใหม่: ”เรากำลังสร้างธุรกิจสองแห่งภายใน Intel เดียว”
“ในไตรมาสแรก อุตสาหกรรม IC [วงจรรวม] ยังอยู่ในช่วงฟื้นตัว และสินค้าคงคลังของลูกค้าก็ค่อยๆ ดีขึ้น เมื่อเทียบกับสามเดือนที่ผ่านมา เราสังเกตเห็นว่าลูกค้าทั่วโลกของเราเต็มใจที่จะสร้างสินค้าคงคลังมากขึ้น” SMIC กล่าวเมื่อวันศุกร์
ลูกค้ากำลังสร้างสินค้าคงคลังเพื่อรองรับการแข่งขันและตอบสนองต่อความต้องการของตลาด บริษัทกล่าว โดยเสริมว่าไม่สามารถดำเนินการตามคำสั่งซื้อเร่งด่วนบางรายการได้ในไตรมาสแรก เนื่องจากสายการผลิตบางสายการผลิตทำงานที่ใกล้กำลังการผลิตสูงสุด
ชิปของ SMIC พบได้ในรถยนต์ สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ เทคโนโลยี IoT และอื่นๆ รายได้มากกว่า 80% ในไตรมาสแรกมาจากลูกค้าในจีน
ความพร้อมสำหรับการแข่งขัน
ในการเสนอราคาเพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันและเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด บริษัทกล่าวว่ากำลังจัดลำดับความสำคัญในด้านต่างๆ เช่น การสร้างกำลังการผลิตและกิจกรรม R&D สำหรับการลงทุน
″[เพื่อ] ให้แน่ใจว่าบริษัทรักษาตำแหน่งผู้นำในการแข่งขันในตลาดที่รุนแรงและเพิ่มการปกป้องผลประโยชน์ของนักลงทุน ... บริษัทวางแผนที่จะไม่จ่ายเงินปันผลสำหรับปี 2566” SMIC กล่าว
“เราเชื่อว่า ตราบใดที่ยังมีความต้องการจากลูกค้าควบคู่ไปกับเทคโนโลยีและความพร้อมด้านกำลังการผลิตของเรา ในที่สุดเราก็สามารถยิ่งใหญ่ขึ้น ดีขึ้น และแข็งแกร่งขึ้นได้ แม้จะมีการแข่งขันที่รุนแรง”
บริษัทคาดว่า รายรับในไตรมาสสองจะเพิ่มขึ้น 5% ถึง 7% จากไตรมาสแรกตามความต้องการที่แข็งแกร่ง ในขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นอาจลดลงอีกเหลือระหว่าง 9% ถึง 11%
“นอกเหนือจากขนาดกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นแล้ว ค่าเสื่อมราคาก็คาดว่าจะเพิ่มขึ้นทุกไตรมาส ดังนั้นอัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าจะลดลงตามลำดับ” SMIC กล่าว
บริษัทถูกจัดให้อยู่ในบัญชีดำการค้าของสหรัฐฯ ในปี 2020เนื่องจากธุรกิจต่างๆ จำเป็นต้องยื่นขอใบอนุญาตก่อนจึงจะสามารถขายให้กับ SMIC ได้ ซึ่งจำกัดความสามารถในการรับเทคโนโลยีบางอย่างของสหรัฐฯ
จากการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ การวิเคราะห์สมาร์ทโฟน Mate 60 Pro ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของจีนที่เปิดตัวเมื่อปีที่แล้วเผยให้เห็นว่าสมาร์ทโฟนทำงานบนชิป 7 นาโนเมตรที่ผลิตโดย SMIC สมาร์ทโฟนดังกล่าวดูเหมือนว่าจะรองรับการเชื่อมต่อ 5G TSMC และ Samsung เริ่มผลิตชิป 7 นาโนเมตรจำนวนมากในปี 2018 และปัจจุบันผลิตชิป 3 นาโนเมตร ซึ่งขนาดที่เล็กกว่าหมายถึงเทคโนโลยีขั้นสูงกว่า
