- Details
- Category: ASAIN
- Published: Tuesday, 21 April 2020 13:18
- Hits: 1581
นายกรัฐมนตรีเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนบวกสาม สมัยพิเศษ ว่าด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (โควิด-๑๙)
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนบวกสาม สมัยพิเศษ ว่าด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (โควิด-๑๙) ผ่านระบบการประชุมทางไกล โดยมีนายเหวียน ซวน ฟุก นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ในฐานะประธานอาเซียน เป็นประธานการประชุมและมีผู้นำจากประเทศสมาชิกอาเซียนและประเทศคู่เจรจาบวกสาม ประกอบด้วย สาธารณรัฐประชาชนจีน ญี่ปุ่น และสาธารณรัฐเกาหลี ตลอดจนเลขาธิการอาเซียนและผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก เข้าร่วมด้วย
ที่ประชุมได้แลกเปลี่ยนสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-๑๙ และมาตรการของแต่ละประเทศ และยืนยันเจตนารมณ์ที่จะร่วมมือกันในการรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-๑๙ อย่างมีประสิทธิภาพ ทันท่วงที และบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในวงกว้าง ตลอดจนเตรียมความพร้อมรับมือกับวิกฤตการณ์อื่นๆ ในอนาคต
ที่ประชุมนำเสนอแนวทางความร่วมมือระหว่างอาเซียนบวกสามในด้านสาธารณสุข โดยการเสริมสร้างขีดความสามารถในการตอบสนองต่อภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข การแลกเปลี่ยนข้อมูล ประสบการณ์และแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศทางการแพทย์ การวิจัยเพื่อพัฒนาวัคซีนและยาต้านไวรัส การจัดตั้งคลังสำรองอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นของภูมิภาค
ในด้านสังคม เน้นการช่วยเหลือคนชาติของประเทศอาเซียนบวกสาม การลดผลกระทบจากข่าวปลอม และการใช้ประโยชน์จากองค์กรสำรองข้าวฉุกเฉินอาเซียนบวกสาม ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศไทยเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหาร และในด้านเศรษฐกิจ ให้ความสำคัญกับการรักษาตลาดที่เปิดกว้างและห่วงโซ่อุปทาน โดยเฉพาะสินค้าที่สำคัญ เช่น อาหาร ยา และอุปกรณ์ทางการแพทย์ เป็นต้น การส่งเสริมการเดินทางและเคลื่อนย้ายของประชาชนเพื่อคงไว้ซึ่งพลวัตทางเศรษฐกิจ การใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เศรษฐกิจดิจิทัล พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้ประกอบการ MSMEs การกำหนดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและแผนฟื้นฟูหลังการระบาด รวมถึงการใช้มาตรการริเริ่มเชียงใหม่พหุภาคีเพื่อส่งเสริมเสถียรภาพทางการเงินในภูมิภาค ในการนี้ ผู้นำประเทศคู่เจรจาบวกสามได้ย้ำความสำคัญของการลงนามความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ ระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership: RCEP) ภายในปีนี้ เพื่อกระตุ้นการค้าและสร้างความมั่นใจให้แก่ภาคธุรกิจ
นายกรัฐมนตรีได้นำเสนอสถานการณ์และมาตรการรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด-๑๙ ในประเทศไทย และได้เสนอจัดตั้ง ‘กองทุนอาเซียนเพื่อรับมือกับโควิด-๑๙’ด้วยการจัดสรรจากกองทุนความร่วมมือของอาเซียนและกับประเทศบวกสามที่มีอยู่แล้ว มาสนับสนุนการจัดหาชุดตรวจและอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ การใช้เทคโนโลยีเพื่อพัฒนาสาธารณสุขในภูมิภาค และการสร้างภูมิคุ้มกันทางเศรษฐกิจด้วยการใช้แนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยยกตัวอย่างของไทยที่ได้น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินการในเรื่องนี้
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้รับรองถ้อยแถลงร่วมของการประชุมสุดยอดอาเซียนบวกสาม สมัยพิเศษ ว่าด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (โควิด-๑๙) เพื่อแสดงเจตนารมณ์ทางการเมืองร่วมกันและระบุถึงมาตรการที่ได้หารือในที่ประชุม รวมทั้งสนับสนุนข้อเสนอของไทยในการจัดตั้งกองทุนอาเซียนเพื่อรับมือกับโควิด-๑๙ ด้วย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมาเลเซียผ่านระบบการประชุมทางวีดิทัศน์ในประเด็นความร่วมมือภายใต้สถานการณ์โควิด-19
นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้หารือกับดาโตะ ซรี ฮิชามมุดดิน บิน ตุน ฮุสเซน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมาเลเซีย ผ่านระบบการประชุมทางวีดิทัศน์ (VDO Conference) โดยได้หารือประเด็นต่าง ๆ ในบริบทความร่วมมือภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (โควิด-19) อาทิ การช่วยเหลือคนไทยในมาเลเซีย การช่วยเหลือคนมาเลเซียในประเทศไทย การส่งเสริมความร่วมมือด้านความมั่นคงทางอาหาร การศึกษา และการบริหารจัดการชายแดน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศขอบคุณรัฐบาลมาเลเซียที่ได้สนับสนุนภารกิจการช่วยเหลือคนไทยในมาเลเซียด้วยดีเสมอมา และแจ้งฝ่ายมาเลเซียเกี่ยวกับมาตรการการเคลื่อนย้ายคนไทยกลับประเทศที่จะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ ๑๘ เมษายน ๒๕๖๓ เป็นต้นไป ทางจุดผ่านแดนต่าง ๆ ๕ จุดในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ ด่านสะเดา จ. สงขลา ด่านสุไหงโก-ลก จ. นราธิวาส ด่านเบตง จ.ยะลา ด่านวังประจัน จ. สตูล และท่าเรือตำมะลัง จ. สตูล โดยย้ำความสำคัญของการดำเนินมาตรการคัดกรองและการจัดสถานที่กักตัวของรัฐเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในการนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมาเลเซียยืนยันความพร้อมในการสนับสนุนภารกิจของฝ่ายไทยและขอบคุณรัฐบาลไทยที่ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ชาวมาเลเซียในการเดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงที่ผ่านมาด้วย
ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดเพื่อรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 โดยมาเลเซียสนใจจะแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับไทยในเรื่องมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคฯ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกันในด้านความมั่นคงทางอาหาร การศึกษา และการบริหารจัดการชายแดน นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือเกี่ยวกับความร่วมมือในกรอบอาเซียน โดยไทยสนับสนุนข้อริเริ่มของมาเลเซียให้มีการจัดทำแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Recovery Plan)
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web